All-new Mercedes-Benz CLA (C178) 2025 ใหม่  

All-new Mercedes-Benz CLA (C178) ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าล้วน 100% เป็นครั้งแรก พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าแรงสุดถึง 354 แรงม้า ระยะทางขับขี่ไกลสุดเกือบ 800 กม. ต่อชาร์จ

Mercedes-Benz CLA เจเนอเรชันที่ 3 รหัสตัวถัง C178 ประเดิมเปิดตัวด้วยระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วน 100% ก่อนจะตามมาด้วยเวอร์ชันเครื่องยนต์ไฮบริด 48V ในภายหลัง โดยระยะแรกจะทำตลาด 2 รุ่นย่อย คือ CLA 250+ และ CLA 350 4MATIC

Mercedes-Benz CLA 250+ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanently excited synchronous machine ขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมเกียร์แบบ 2-speed กำลังสูงสุด 272 แรงม้า (200 kW) แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.

แบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-ion ขนาดความจุ 85 kWh ระยะทางขับขี่สูงสุด 792 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (WLTP) รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC กำลังไฟสูงสุดถึง 320 กิโลวัตต์ อันเป็นผลจากการใช้สถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ 800 โวลต์ สามารถชาร์จเพียง 10 นาที ได้ระยะทางขับขี่กลับคืนสูงสุด 325 กม.

Mercedes-Benz CLA 350 4MATIC ถูกเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อคู่หน้า ให้กำลังรวมสูงสุด 354 แรงม้า (260 kW) แรงบิดสูงสุด 515 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. แบตเตอรี่มีขนาดเท่ากับรุ่น CLA 250+ ระยะทางขับขี่สูงสุด 771 กม. ต่อชาร์จ (WLTP)

ภายนอกของ All-new CLA มีรูปลักษณ์คล้ายกับรถต้นแบบ Concept CLA ที่ถูกเผยโฉมตั้งแต่ปี 2566 โดยยังคงเอกลักษณ์ตัวถังแบบคูเป้ 4 ประตู ออกแบบฝากระโปรงหน้ายาวพร้อมโป่งพาวเวอร์โดมช่วยเพิ่มความดุดัน ด้านท้ายออกแบบไฟท้ายรูปทรงยาวที่สามารถส่องสว่างเป็นรูปดาวสามแฉกทั้งสองข้าง

All-new CLA ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED High Performance เป็นมาตรฐาน สามารถเลือกออปชันเป็นไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันเป็นรูปดาวสามแฉกได้ โดยทุกรุ่นถูกติดตั้งหลังคากระจก Panoramic แบบชิ้นเดียว ซึ่งเมอเซเดส-เบนซ์ระหว่างช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งยังมีการเคลือบวัสดุเพื่อลดแสงและความร้อนจากดวงอาทิตย์

ขนาดและมิติตัวถังของ Mercedes-Benz CLA ใหม่ มีดังนี้

- ความยาว 4,723 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,855 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,468 มิลลิเมตร
- ความยาวฐานล้อ 2,790 มิลลิเมตร
- พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า 405 ลิตร
- พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 101 ลิตร

เมื่อเทียบกับ CLA รุ่นเดิม จะพบว่ารุ่นใหม่ มีความยาวเพิ่มขึ้น 35 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 25 มิลลิเมตร สูงขึ้น 29 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อยาวขึ้น 61 มิลลิเมตร

นอกจากความกว้างของภายในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น สิ่งที่โดดเด่นมากกว่าคือการติดตั้งหน้าจอ MBUX Superscreen ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยหน้าจอชุดมาตรวัดสำหรับผู้ขับขี่ ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 14 นิ้ว รวมถึงหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ขนาด 14 นิ้ว ทั้งหมดนี้ถูกคลุมทับด้วยกระจกเพื่อทำให้มีลักษณะเป็นผืนเดียวกัน เสริมความสวยงามด้วยชุดไฟ Ambient Light และช่องปรับอากาศแบบวงแหวน

ระบบปฏิบัติการ MB.OS ที่ติดตั้งใน CLA มาพร้อมซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับ Mercedes-Benz Intelligent Cloud สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ของรถทั้งหมดได้แบบ Over-the-Air ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับลูกเล่นใหม่ๆ ของรถได้แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีนับตั้งแต่ซื้อรถ โดยลูกเล่นใหม่ที่ว่านี้จะมาจากทั้งการพัฒนาโดย Merces-Benz เอง รวมถึงพันธมิตรอย่าง Google และ Microsoft ด้วยเช่นกัน

ถือเป็นครั้งแรกของ CLA ที่จะมีขุมพลังขับเคลื่อนให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์สันดาปพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า ผสานการทำงานทั้งระบบ Full-hybrid และ Mild-hybrid รวมถึงขุมพลังไฟฟ้า EQ Technology ที่ชูจุดเด่นด้านสถาปัตยกรรม 800V อินเวอร์เตอร์ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) และระบบส่งกำลังด้วยมอเตอร์ 2 อัตราทด โดยมีรายละเอียด ดังนี้

CLA Hybrid with 48V Technology

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged ทำงานร่วมกับระบบ High-tech Hybrid อันประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Mild-hybrid 48V และมอเตอร์ไฟฟ้า 8F-eDCT หรือ eDCT (มอเตอร์ไฟฟ้า + เกียร์ Dual-clutch 8 จังหวะ) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 1.3kWh มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD และขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC

(ตัวเลขสมรรถนะยังไม่เปิดเผย)

CLA 250+ 4MATIC with EQ Technology

ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอัตราทด 2 จังหวะ กำลังสูงสุด 200 กิโลวัตต์ หรือ 272 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Nickel-Manganese-Cobalt ความจุ 85 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 320 kW

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.7 วินาที
- ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 210 km/h
- ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จทำได้สูงสุด 792 กิโลเมตร (WLTP)
CLA 350 4MATIC with EQ Technology

ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอัตราทด 2 จังหวะ กำลังสูงสุด 260 กิโลวัตต์ หรือ 353 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 515 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Nickel-Manganese-Cobalt ความจุ 85 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 320 kW

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 4.9 วินาที
- ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 210 km/h
- ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จทำได้สูงสุด 771 กิโลเมตร (WLTP)

มอเตอร์ไฟฟ้าอัตราทด 2 จังหวะของ CLA with EQ Technology

- อัตราทด 11:1 ช่วยสร้างแรงบิดช่วงความเร็วตำ่ เพิ่มขีดความสามารถในการลากจูงระดับ 1.8 ตัน
- อัตราทด 5:1  ออกแบบมาเพื่อสร้างพละกำลังและช่วยประหยัดพลังงานในช่วงความเร็ว

ระบบกู้คืนพลังงาน สามารถปรับได้ 4 รูปแบบ

- D Auto ปรับการกู้คืนพลังงานแบบแปรผันตามการขับขี่ และสภาพเส้นทาง
- D+ ไม่มีการกู้คืนพลังงาน หรือแรงหน่วง
- D กู้คืนพลังระดับปกติ ความหน่วง 1 m/s²
- D- กู้คืนพลังระดับสูงสุด ความหน่วง 3 m/s²

ทั้งนี้ Mercedes-Benz CLA เจเนอเรชันที่ 3 ถูกพัฒนาบนแพล็ตฟอร์ม MMA (Mercedes-Benz Modular Architecture) สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งจะถูกนำไปใช้กับ CLA Shooting Brake และเอสยูวีอีก 2 รุ่น ขณะที่ A-Class รุ่นปัจจุบันจะถูกยุติการผลิตภายในปี 2569 เพื่อโฟกัสทำตลาด CLA แทน

ที่มา : Mercedes-Benz