
Toyota Land Cruiser กับชุดแต่งพิเศษ AT37 สู่ระดับใหม่ลุยยิ่งขึ้น จากสำนัก แต่ง Arctic Trucks
รูปลักษณ์ของ AT37 ดูเรียบง่ายแต่แข็งแกร่ง มาพร้อมกับชุด Widebody รอบคัน 10 ชิ้น ที่รวมถึงกันชนใหม่และขยายขอบบังโคลนให้กว้างขึ้น นอกจากนี้ยังมีขั้นบันไดข้างจากอะลูมิเนียม, บังโคลน และฮิทช์รับที่ซ่อนไว้
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตามากที่สุดคือระบบกันสะเทือนที่ยกสูงและยางขนาดใหญ่ มีระบบกันสะเทือนที่ยกสูง 1.6 นิ้ว (40 มม.) ซึ่งมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนที่ปรับได้สองทาง โดยใช้สปริงใหม่, คอยล์โอเวอร์ และดัมเปอร์ใหม่
ล้ออลูมิเนียมขนาด 17 นิ้ว มีพื้นผิวสีดำด้าน และการออกแบบแบบสองวาล์ว ช่วยให้เจ้าของสามารถตรวจสอบและปรับความดันยางได้ง่ายขึ้น ส่วนยางที่ใช้เป็นยาง BFGoodrich ขนาด 37 นิ้ว มีให้เลือกทั้งแบบออลเทอเรนและแบบมัดเทอเรน
การปรับระบบช่วงล่าง เป็นอีกจุดที่ทำให้ Land Cruiser 250 ดูโดดเด่นขึ้นจากรุ่นมาตรฐาน ด้วยการยกตัวรถขึ้นสูงถึง 1.6 นิ้ว (ประมาณ 40 มม.) และขยายระยะฐานล้อให้ยาวขึ้น รวมถึงการปรับระยะแทร็คระหว่างล้อซ้ายและขวาเพื่อเพิ่มความเสถียรในการขับขี่ และเสริมความหล่อด้วยล้อขนาด 17 นิ้ว ที่ออกแบบมาเฉพาะรุ่น พร้อมยางที่สามารถเลือกได้ทั้ง All-terrain หรือ Mud-terrain
เพื่อรองรับยางขนาดใหญ่ Arctic Trucks ได้ปรับโครงสร้างของ Land Cruiser ทั้งตัวถังและระบบขับเคลื่อนใหม่ โดยยืนยันว่าโมเดลนี้มีฐานล้อที่กว้างขึ้นและระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น จากการย้ายตำแหน่งเพลาหลัง
พละกำลัง Land Cruiser 250 ยังไม่ถูกเปิดเผยว่าจะมีการปรับแต่งเพิ่มเติมหรือไม่ สำหรับรุ่นมาตรฐานของ Toyota Land Cruiser 250 จะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.7 ลิตร ให้กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.8 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ
ภายในรถมีการตกแต่งพิเศษ พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่ออกแบบเฉพาะ รวมถึงแผ่นกันสึกที่ปีกประตูและพรมปูพื้นที่มีโลโก้ของ Arctic Trucks ยังไม่มีการเปิดเผยราคาเต็มของการแปลงสภาพนี้ แต่ชุดอุปกรณ์พิเศษนี้จะวางจำหน่ายในไตรมาสที่สอง และจะมีจำหน่ายทั้งในรูปแบบที่เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานที่ตัวแทนจำหน่าย รวมถึงการแปลงสภาพตามคำสั่งจากลูกค้าในยุโรป, อเมริกาเหนือ, แอฟริกา และตะวันออกกลาง
Toyota Land Cruiser AT37 จาก Arctic Trucks จะเปิดตัวในตลาดยุโรปเป็นแห่งแรกในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 ก่อนที่จะขยายไปยังอเมริกาเหนือ, แอฟริกา และตะวันออกกลาง โดยราคาจำหน่ายยังไม่มีการเปิดเผยในตอนนี้