Toyota Alphard - Vellfire PHEV รุ่นแรกของญี่ปุ่น
Toyota Alphard PHEV และ Vellfire PHEV ไม่มีความแตกต่างจากรุ่น HEV Executive Lounge อย่างมีนัยสำคัญ จุดสังเกตเพียงอย่าง 2 อย่าง ที่จะทำให้เรารู้ว่านี่คือรุ่น Plug-in Hybrid คือ ตราสัญลักษณ์ PHEV ที่ประทับอยู่บริเวณมุมขวาล่างของบานฝาท้าย รวมไปถึงช่องชาร์จไฟฟ้าที่อยู่เหนือซุ้มล้อฝั่งขวาของตัวรถ
ด้านมิติตัวถังภายนอก รุ่น PHEV จะเท่ากันกับรุ่น HEV ทุกประการ ทว่าการติดตั้งแบตเตอรี่ High-volatge ที่มีขนาดและความจุเพิ่มขึ้น ส่งผลให้น้ำหนักตัวรถของรุ่น PHEV เพิ่มขึ้นอีก 80 กิโลกรัม (PHEV 2,470 กิโลกรัม และ HEV 2,390 กิโลกรัม)
ขุมพลัง PHEV
มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับ Toyota Alphard - Vellfire ในรุ่น PHEV ช่วยเพิ่มความสุขให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังให้นั่งสบายได้ในทุกสถานการณ์ ผ่านความเงียบของระบบ BEV ที่ช่วยลดการเกิดเสียงและการสั่นสะเทือนให้น้อยที่สุด มีจุดศูนย์ถ่วงและเสถียรภาพที่ต่ำซึ่งได้รับจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ใต้พื้น ปรับปรุงการใช้งานให้เหมาะสมเป็นรถมินิแวนที่หรูหราพรีเมียมมากยิ่งขึ้น
ระบบ Plug-in Hybrid ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมด BEV หรือไฟฟ้าล้วนได้ในหลายรูปแบบการเดินทาง เพียงกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี ซึ่งสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้ไกลสูงสุด 73 กิโลเมตร/ชั่วโมง หลังจากนั้นจะกลับมาใช้ระบบเครื่องยนต์ในการเดินทางต่อไปได้อย่างสบายใจ
ภายในห้องโดยสารของ Alphard PHEV และ Vellfire PHEV เป็นแบบ Executive Lounge เบาะนั่ง 3 แถว 6 ตำแหน่ง เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถเลื่อนขึ้นหน้า – ถอยหลังได้มากถึง 480 มิลลิเมตร และปรับส่วนต่างๆ ได้จากทั้งสวิตช์ด้านข้างเบาะ และหน้าจอ Tablet ขนาดกระทัดรัด มีโต๊ะพับอเนกประสงค์สำหรับวางคอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังมีโปรแกรม Smart Comfort เอาไว้ปรับการนวดได้ 4 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Dream, Relax, Focus และ Enegize ด้วยเช่นกัน
อุปกรณ์ต่างๆ ติดตั้งมาให้เช่นเดียวกับรุ่น HEV Executive Lounge ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอชุดมาตรวัดเป็นแบบ Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบแสดงผลบนกระจกบังลมหน้า Head-up Display แบบสี หน้าจอกลางเป็นแบบกึ่งลอยตัว ขนาด 14 นิ้ว พร้อมระบบนำทางผ่านดาวเทียม ชุดเครื่องเสียง JBL by Harman 12 ลำโพง รวมไปถึงชุดคอนโซล Super-Long Overhead Console เหนือศีรษะ ประกอบไปด้วยไฟสร้างบรรยากาศ 64 เฉดสี สวิตช์เครื่องปรับอากาศโซนที่ 3 หน้าจอความบันเทิง ขนาด 14 นิ้ว
โทนสีภายในห้องโดยสาร สำหรับ Alphard มีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ สีดำ และสีเบจ ขณะที่ Vellfire จะมี สีดำ และสีน้ำตาล ให้เลือก
Toyota Alphard / Vellfire PHEV มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมวางจำหน่ายในตลาดประเทศญี่ปุ่น ช่วงเดือน มกราคม 2025 สำหรับราคาจำหน่าย จะเริ่มต้นที่ 10,650,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 2,350,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีต่างๆ ของไทย) ค่าตัวสูงกว่ารุ่น HEV ราวๆ 20%
Cr. Toyota