มาเเล้ว! "Proton e.MAS 7" รถไฟฟ้ารุ่นแรกจากมาเลเซีย
มาเเล้ว! "Proton e.MAS 7" รถไฟฟ้ารุ่นแรกจากมาเลเซีย

มาเเล้ว! "Proton e.MAS 7" รถไฟฟ้ารุ่นแรกจากมาเลเซีย

ภายนอกดีไซน์ทันสมัยทั้งรูปลักษณ์ด้านหน้าด้วยกระจังหน้าแบบทึบช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานพร้อมไฟหน้า LED พร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกัน พร้อมไฟ LED เส้นเล็กแบบรูปตัว C แบบ Tiger Face, Tiger Eyes มีหนวดเสือที่ด้านหน้า พร้อมช่องระบายอากาศในชุดกันชนหนัา ด้านข้างล้ำสมัยด้วย หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ราวหลังคา กรอบโครเมียมในชุดกระจกติดตั้งกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีเดียวกับตัวรถ ที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวถังรถ คิ้วขอบล้อสีดำ

ไฟท้าย LED แนวยาว ติดตราโลโก้ตัวอักษร PROTON เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กันชนหลังดีไซน์ลงตัวกับตัวรถ และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18 ตัวรถสร้างจากพื้นฐานสถาปัตยกรรม GEELY Electric Architecture (GEA) พัฒนามาจากแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) 

- ความยาว 4,615 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,901 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,670 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 145 และ 173 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,715-1,765 กิโลกรัม

วางจำหน่าย 2 รุ่นย่อย คือ Prime และ Premium ทั้งคู่ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 12-in-1 Integrated Motor กำลังสูงสุด 218 แรงม้า (160 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.9 วินาที (รุ่น Premium ใช้เวลา 7.1 วินาที) สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 175 กม./ชม.

รุ่น Prime ติดตั้งแบตเตอรี่ AEGIS Short Blade ขนาดความจุ 49.52 kWh ระยะทางขับขี่ 410 กม. (มาตรฐาน NEDC) และรุ่น Premium เพิ่มความจุเป็น 60.22 kWh ระยะทางขับขี่ 470 กม. รองรับการชาร์จด่วนกำลังสูงสุด 80 kW และ 100 kW ตามลำดับ แต่ใช้ระยะเวลาชาร์จจาก 30 - 80% เท่ากันอยู่ที่ 20 นาที

Proton e.MAS 7 ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครันตามฉบับรถสัญชาติจีน ทั้ง 2 รุ่นย่อยติดตั้งไฟหน้า LED พร้อมไฟสูงอัตโนมัติ Intelligent High Beam Control, ไฟท้าย LED แบบ 3 มิติ, มือเปิดประตูแบบเรียบไปกับตัวถัง, ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ฯลฯ

รุ่น Premium ถูกเพิ่มเติมด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิก พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า, ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า, กระจังหน้าแบบ Active Grille Shutter และเพิ่มขนาดล้ออัลลอยจาก 18 นิ้ว เป็น 19 นิ้ว

ห้องโดยสารทั้ง 2 รุ่นย่อย ติดตั้งเบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เบาะนั่งด้านหลังพับเอนได้ 2 จังหวะ, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ LCD ขนาด 10.2 นิ้ว, หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 15.4 นิ้ว, ระบบปฏิบัติการ Flyme Auto, ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน PROTON e.MAS App, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองฝุ่น N95 และช่องจ่ายไฟ USB-A / USB-C รวม 4 จุด เป็นต้น

รุ่น Premium เพิ่มเติมด้วยเบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, ระบบระบายอากาศเบาะนั่งคู่หน้า, ไฟตกแต่งห้องโดยสารปรับได้ 256 สี, หน้าจอ Head-up Display, ระบบเสียง Flyme ลำโพง 16 ตำแหน่ง พร้อมลำโพงบริเวณพนักพิงศีรษะ เป็นต้น

Proton e.MAS 7 ทั้ง 2 รุ่นย่อย ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง ADAS Level 2 ที่ประกอบด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Intelligent Cruise Control, ระบบป้องกันการชน Automatic Emergency Braking, ระบบช่วยป้องกันรถออกนอกเลน Lane Departure Prevention, ระบบเตือนการเปิดประตู Door Open Warning และอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 15 ฟังก์ชัน

ส่วนราคาจำหน่าย Proton e.MAS 7 ที่มาเลเซียอยู่ระหว่าง 105,800 - 119,800 ริงกิต หรือคิดเป็นเงินไทยราว 840,000 - 920,000 บาท

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง