สุดงง! Mercedes-Benz 300D แช่น้ำท่วมทั้งคัน แต่เจ้าของสตาร์ทขับออกมาได้หน้าตาเฉย
Mercedes-Benz 300D แช่น้ำท่วมทั้งคัน แต่เจ้าของสตาร์ทขับออกมาได้หน้าตาเฉย
น่าอัศจรรย์เมื่อรถยนต์ Mercedes-Benz 300D รหัสตัวถัง W123 อายุกว่า 30 ปี สามารถขับเคลื่อนออกมาจากโรงจอดรถใต้ดินโดยไม่ต้องอาศัยรถลากจูงใดๆ เลยแม้แต่น้อย
Iván Felisi Rubio เจ้าของรถคันนี้เล่าว่า โรงจอดรถใต้ดินที่เขาจอดรถถูกน้ำท่วมสูงถึง 1.5 เมตร หลังจากน้ำลด เขาจึงสามารถเข้าไปตรวจสอบสภาพรถของเขาได้
แม้ว่ารถจะจมน้ำท่วมทั้งคัน (สังเกตได้จากรอยน้ำที่ปรากฏบนหลังคารถ) แต่เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 5 สูบของรถคันนี้กลับสามารถสตาร์ทติดได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เปลี่ยนแบตเตอรี่และไล่น้ำออกจากเครื่องยนต์เท่านั้น
ซึ่งส่งผลให้ Mercedes-Benz E-Class รหัส W123 เป็นรถยนต์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความทนทานและความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะรุ่นดีเซลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทนทานที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา เหตุการณ์นี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความทนทานและความน่าเชื่อถือของรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เราไปทำความรู้กับเจ้า Mercedes-Benz E-Class รหัส W123 กันสักหน่อยนะครับ Mercedes-Benz E-Class (W123) หรือรุ่นที่คนไทยรู้จักันดีว่า รุ่นไฟนอน หรือรุ่นตาหวาน ได้เผยโฉมครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม ปี 1976 โดยเปิดตัวในรุ่นซีดาน 4 ประตู หลังจากนั้น มีรุ่นคูเป้ 2 ประตู (CE) ในปี 1977 และ รุ่นแวก้อน 5 ประตู (T-Model) ในปี 1979 มาเสริมทัพ ให้มีความหลากหลายมากขึ้นและเป็นรุ่นที่ทำให้ลูกค้าในช่วงนั้นต้องรอรถนาน 1 ปีเนื่องจากทำยอดขายมหาศาล พร้อมออฟชั่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ที่ปัดน้ำฝนไฟหน้า กับ เบาะผ้าสุดหรู
ขุมพลัง Mercedes-Benz E-Class (W123) มีหลากหลายให้เลือกตามต้องการ ตั้งแต่ เครื่องเบนซินขนาดเล็ก 2.0 ลิตร 109 แรงม้า ในรุ่น 200 จนถึงรุ่นท็อป 280 E ด้วยเครื่องเบนซินขนาด 2.8 ลิตร 6 สูบ 177แรงม้า ด้านเครื่องดีเซลมีให้เลือกตั้งแต่ เครื่องขนาดเล็ก 2.0 ลิตร 4 สูบ 60 แรงม้าในรุ่น 200 D จนถึงครื่องดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร 5 สูบ 125 แรงม้า ในรุ่น 300TD
นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซินที่สามารถใช้พลังงานอื่นๆได้เช่นรุ่นก๊าซ LPG และในปี 1983 ยังพัฒนาเป็นรถต้นแบบขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าและ พลัง fuel-cell หรือ hydrogenระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz E-Class (W123) มีหลายๆอย่าง และทันสมัยในยุคนั้น เริ่มจากโครงสร้างตัวถัง crumple zones ถุงลมนิรภัยหรือ SRS ในปี 1982 กันชนหน้าขนาดใหญ่ เป็นต้น สำหรับ E-Calss W123 ยุติการทำตลาดในปี 1985 พร้อมยอดขายทั่วโลก เกือบ 2.7 ล้านคัน โดยรุ่นที่มารับช่วงต่อนั่นคือ E-Class (W124) หรือรุ่นที่คนไทยรู้จักันดีว่า รุ่นโลงจำปา