Audi ซีรีส์ไฟฟ้าใหม่ในจีนอาจไม่ใช้โลโก 4 ห่วง

Audi ซีรีส์ไฟฟ้าใหม่ในจีนอาจจะไม่ใช้โลโก้ 4 ห่วงแล้ว
การตัดสินใจของแบรนด์พรีเมียมในเครือ Volkswagen อย่าง Audi เนื่องจาก “เป็นการพิจารณาภาพลักษณ์ของแบรนด์” หนึ่งในคนที่รู้แผนกล่าว นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงการใช้สถาปัตยกรรมยานยนต์ที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรชาวจีน SAIC เปิดใหม่ และการพึ่งพาซัพพลายเออร์ร่วมถึงเทคโนโลยีในท้องถิ่นที่เพิ่มมากขึ้น

สํานักข่าว Reuters ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับซีรีส์ใหม่ที่ใช้ชื่อรหัสว่า “Purple” ว่าจะใช้โลโก้อื่น หรือจะใช้ชื่อ Audi  ในรถยนต์ของโปรเจคนี้ ที่จะใช้สถาปัตยกรรมจากแบรนด์ในเครือ SAIC อย่าง IM Motors

รถแนวคิดสําหรับซีรีส์มีกําหนดเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน Audi จะอธิบายเกี่ยวกับ “เรื่องราวของแบรนด์” ผ่านซีรีส์นี้ ทั้งสองคนกล่าว

บุคคลที่ 3 ได้รับการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้กล่าวว่ามีการวางแผนแบบจําลอง 9 แบบภายในปี 2573

Audi ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าการเก็งกําไร SAIC กล่าวในแถลงการณ์ต่อรอยเตอร์ว่า รถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้จะเป็น “Audi ที่แท้จริงพร้อม DNA แบบฉบับ Audi อย่างแท้จริง”

ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนกําลังมีส่วนแบ่งมากขึ้นในตลาดบ้านเกิดของพวกเขา และกำลังจะยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วย ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้า นําไปสู่ยอดขายชะลอตัวลงสําหรับแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติ ซึ่งหลายรายต้องพึ่งพารุ่นสันดาปและไฮบริดมากขึ้น ผลักดันให้พวกเขาสร้างพันธมิตรใหม่

Audi และ SAIC ซึ่งเป็นพันธมิตรของ VW มาเป็นเวลานาน กล่าวในเดือนพฤษภาคมว่าพวกเขาจะร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มสําหรับรถยนต์ไฟฟ้าสําหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ

รถคอนเซ็ปต์ AUDI E มีขนาด 4,870 มม. ยาว, 1,990 มม. กว้าง, และสูง 1,460 มม. มีฐานล้อ 2,950 มม. ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมเทอร์นารีขนาด 100 kWh และระบบไฟฟ้า 800 V ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 700 กม. ตามมาตรฐาน CLTC

รถคันนี้มีมอเตอร์คู่ (หน้าและหลัง) และเป็นรุ่น Quattro ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.6 วินาที นอกจากนี้ยังมีพวงมาลัยล้อหน้าแบบปรับได้, ระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อ, และช่วงล่างแบบถุงลม (แอร์ซัสเพนชัน)

AUDI E จะติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ที่เรียกว่า AUDI OS ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับแบรนด์นี้ รถจะมาพร้อมกับระบบแอปพลิเคชันที่หลากหลาย และมีฟีเจอร์การจดจำใบหน้าเฉพาะตัวAUDI ถูกผลิตขึ้นเฉพาะสำหรับตลาดจีน โดยคำนึงถึงความต้องการและความชอบของตลาดในท้องถิ่น รุ่นแรกของแบรนด์มีกำหนดเปิดตัวในฤดูร้อนปี 2025 ยังไม่มีแผนลุยนอกจีน