Lotus Theory 1 สปอร์ตไฟฟ้าล้วนตัวเบา 1.6 ตัน 1,000 แรงม้า
Lotus Theory 1 สปอร์ตไฟฟ้าล้วนตัวเบา 1.6 ตัน 1,000 แรงม้า

Lotus Theory 1 สปอร์ตไฟฟ้าล้วนตัวเบา 1.6 ตัน 1,000 แรงม้า 

 Lotus ภายใต้ร่มเงาของ Geery วางแผนใหญ่สำหรับอนาคตที่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะต้องขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และเพื่อเป็นการแสดงความพร้อมอย่างเต็มเหนี่ยว! ในการที่จะก้าวเข้าสู่แบรนด์รถสปอร์ตพลังงานสะอาด 100% Lotus ได้เปิดตัวรถต้นแบบแนวคิดคันใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า Theory 1 รถสปอร์ต 2 ประตู 3 ที่นั่ง มอเตอร์คู่หน้า-หลัง มีกำลังรวม 987 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนการกำหนดน้ำหนักเป้าหมายของ Theory 1 ไม่เกิน 1.5 ตัน ต้องตามดูกันอีกทีว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมารถไฟฟ้ามอเตอร์คู่กับแบตเตอรี่ 80 kWh มักจะมีน้ำหนักตัวบานเบอะทะลุ 2.2 ตัน หรือมากกว่านั้น น้ำหนักที่มากเกินไปของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ส่งผลต่อการบังคับควบคุม โดยเฉพาะการเลี้ยวโค้งในย่านความเร็วสูง ระยะเบรกที่เพิ่มขึ้นมาก เบรกต้องรองรับการหยุดยั้งมวลน้ำหนักมหาศาล ทำให้ร้อนจัดอย่างรวดเร็วหากไม่ได้ใช้ระบบเบรกคาบอนเซรามิก รถที่หนักยังสิ้นเปลืองพลังงานซึ่งทำให้เปลืองกระแสไฟในแบตญโดยใช่เหตุอีกตะหาก 

Theory 1 วางดีไซน์ล้ำอนาคตไปไกล (บางทีก็ไกลเกิน จนจินตนาการไปไม่ถึงแหละ) เพื่อเป็นตัวแทนของงานการออกแบบในอนาคต ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Lotus Esprit รถสปอร์ต รูปทรงลิ่มที่คมชัด ส่วนหน้าที่จงใจทำออกมาให้แหวกอากาศได้ดี ไฟหน้าทรงบูมเมอแรง ห้องโดยสารย้อนกลับไปถึงการออกแบบภายในของ Esprit รถสปอร์ตเครื่องยนต์กลางที่เคยเป็นยานพาหนะของ 007 แต่ก็ยังงงๆว่า ด้านหน้ากับส่วนท้ายของรถนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไฟท้ายที่บางเฉียบ สปอยเลอร์หลังหรือวิงหลังท่ีพับหรือกางออกได้ด้วยไฟฟ้า ดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ ส่วนที่เจ๋งที่สุดคือประตูทรงกรรไกที่เปิดออกโดยยกบานขึ้นด้านบน อาจเข้าออกลำบากแต่โคตรเท่เวลาจอดตามห้าง! คล้ายกับประตู dihedral synchro-helix doors ของไฮเปอร์คาร์ Koenigsegg 

LOTUSWEAR ที่พัฒนาร่วมกับบริษัท start-up ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ ทำหน้าที่เป็นหุ่นยนต์ผู้ช่วย โดยเลือกใช้คาร์บอนไฟเบอร์สำหรับห้องโดยสาร ขึ้นรูปด้วยกรรมวิธี 3-D Printing เพื่อลดน้ำหนักตัวถังโดยรวมลงเหลือเพียง 1,600 กิโลกรัม อีกทั้งยังร่วมมือกับ Kyocera SLD Laser เพื่อพัฒนาการใช้แสงเลเซอร์สำหรับการส่องสว่างและสร้างบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกตัวรถ เพื่อลดจำนวนหลอดไฟและน้ำหนักของชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็น

พร้อมด้วยศูนย์ข้อมูลที่ทำงานด้วยชิปประมวลผลจาก Nvidia ติดตั้งหน้าจอ OLED แสดงสถานะของตัวรถที่บริเวณด้านนอก เทคโนโลยีอัดแน่นเกินหน้าเกินตาไฮเปอร์คาร์รุ่นอื่นๆ ได้แก่ เซนเซอร์และเรดาร์ รวมไปถึงกล้องรอบคัน เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมทั้งหมด เครื่องเสียงพรีเมี่ยมจากแบรนด์ในตำนานอย่าง KEF ที่มอบพลังเสียงทั่วถึงสำหรับผู้โดยสารทั้ง 3 ตำแหน่ง รวมไปถึงการตัดเสียงรบกวนเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับฟังมากยิ่งขึ้น


จุดเด่นอยู่ที่ ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้พละกำลังสูงสุด 1,000 แรงม้า (PS) มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ภายในเวลา 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 271 กิโลเมตร / ชั่วโมง แบตเตอรี่ความจุ 70 kWh ที่สามารถทำพิสัยการเดินทางได้สูงสุด 400 กิโลเมตร พร้อมโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ Range Tour Sport Individual และ Track


พร้อม ระบบบังคับเลี้ยวผ่านระบบไฟฟ้าทั้งหมด ที่ปรับแต่งได้อย่างอิสระมากกว่า มอบอัตราการตอบสนองที่ฉับไวยิ่งขึ้น พร้อมด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้วที่คู่หน้า และ 21 นิ้วที่คู่หลัง รัดด้วยยางจาก Pirelli รุ่นพิเศษ P ZERO ELECT ขนาด 265/35 R20 และ 325/ 30 R21 ตามลำดับ ซึ่ง Lotus เคลมว่าสามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้อีก 10% ปิดท้ายด้วยระบบเบรคจาก AP Racing ที่เป็นพาร์ทเนอร์กันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 1967 ประกอบไปด้วยจานเบรคคาร์บอนเซรามิคความแข็งแรงสูงและคาลิปเปอร์แบบอะลูมิเนียม Forged Monoblock

Cr. Motor1 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง