MAXUS eTERRON 9 กระบะไฟฟ้าเครือ MG วิ่งไกล 430 กม.
Maxus eTerron 9 เป็นรุ่นการผลิตจริงจากคอนเซ็ปรถกระบะ GST ที่จัดแสดงในงาน Shanghai Auto Show เมื่อปีที่แล้ว สำหรับรถคอนเซ็ปนี้จะมีโดรนขนาดใหญ่อยู่ในท้ายรถพร้อมกับจักรยานเสือภูเขา คันนี้จะเน้นการใช้งานสำหรับไลฟ์สไตล์กลางแจ้ง
นอกจากนี้ชื่อ eTerron 9 จะเป็นชื่อกระบะสำหรับการนำส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ข้อมูลรายชื่อกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) แสดงให้เห็นว่ารถกระบะไฟฟ้าคันนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ Interstellar X ในตลาดจีน
Maxus eTerron 9 รถกระบะไฟฟ้าจีนขนาดกลางถึงขนาดใหญ่คันแรกที่จะนำส่งออก การวัดตาม MIIT สําหรับ Interstellar X คือ ยาว 5,500 (5,630) x กว้าง 2,005 x สูง 1,860 (1,874) มม. ในขณะที่ฐานล้ออยู่ที่ 3,300 มม.
คันนี้ใช้มอเตอร์คู่ส่งกำลัง 138kW ที่เพลาหน้าและ 216kW ที่เพลาหลัง รุ่นผลิตจริงยังคงนำ Frunk เหมือนคอนเซ็ปให้ได้ใช้งาน แต่กลับไม่มีโดรนอยู่ท้ายรถแล้ว
ยอดขายส่งออกสะสมของรถกระบะ SAIC ภายใต้แบรนด์ Maxus ทำได้สูงมากกว่า 180,000 คัน โดยยอดขายรวมทั้งในยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอเมริกาคิดเป็นมากกว่า 90% ของทั้งหมด
Xie Jiayue รองผู้จัดการทั่วไปของ SAIC Maxus กล่าวในงานแถลงข่าวในงานฮันโนเวอร์ ว่าแบรนด์จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในยุโรปด้วยรุ่นใหม่ทั้งหมด 10 รุ่นภายในปี 2025 มีการอ้างว่า Maxus คิดเป็น 58% ของยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ของ SAIC ในยุโรป
Maxus มีต้นกําเนิดมาจากอดีตผู้ผลิตรถตู้เชิงพาณิชย์อย่าง British LDV Group จนทาง SAIC ได้เข้าซื้อบริษัทในปี 2010 ก่อนที่จะเปิดตัวรถตู้ Maxus คันแรกในปี 2011 โดยก่อนหน้า Maxus เป็นชื่อโมเดลของ LDV แต่ปัจจุบันกลายเป็นชื่อแบรนด์
ทั้งยังมีฟังก์ชัน Vehicle to Load (V2L) สามารถเปลี่ยนรถเป็นแหล่งจ่ายไฟเคลื่อนที่ โดยมีช่องจ่ายไฟขนาด 2.2 kW ติดตั้งบริเวณฝากระโปรงหน้า (Frunk) และกระบะท้าย และรองรับอุปกรณ์จ่ายไฟขนาด 6.6 kW สำหรับชาร์จเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูง เช่น จักรยานไฟฟ้าหรือตู้เย็นเคลื่อนที่ ฯลฯ สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 620 กิโลกรัม
ภายในห้องโดยสารถูกติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหนังที่มีความนุ่มเป็นพิเศษ พร้อมเบาะไฟฟ้าผู้ขับขี่ปรับได้ 8 ทิศทาง มีฟังก์ชันนวดผ่อนคลายและระบบระบายอากาศ ช่องเก็บสัมภาระภายในห้องโดยสารรวม 20 ตำแหน่ง รวมถึงกระโปรงหน้าและฝากระบะท้ายสามารถเปิดออกด้วยไฟฟ้า
ระบบช่วงล่างด้านหลังของ MAXUS eTERRON 9 เป็นแบบ Multi-link พร้อมโช้กอัปถุงลมไฟฟ้า สามารถปรับระดับความสูงได้ขึ้นอยู่กับความเร็วเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง จะช่วยลดอาการโคลงของตัวรถและลดแรงต้านอากาศที่ความเร็วสูง อีกทั้งยังสามารถลดระดับความสูงของกระบะท้ายได้สูงสุด 60 มิลลิเมตร เพื่อให้การขนถ่ายสิ่งของทำได้สะดวกมากขึ้น
MAXUS eTERRON 9 ใช้แชสซีซ์แบบ Semi-monocoque ที่รวมข้อดีของแชสซีซ์แบบยูนิบอดี้้และขั้นบันไดเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งยังมีการใช้วัสดุเหล็ก Ultra-high-strength ราว 73% โดยเฉพาะบริเวณเสา A, B และ C ซึ่ง MAXUS คาดว่าจะได้คะแนนความปลอดภัยจากการชนระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP
สำหรับบางตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และออสเตรเลีย แบรนด์ยังคงขายภายใต้ชื่อ LDV มากกว่าชื่อ Maxus ที่ใช้ในประเทศจีนและตลาดอื่น ๆ ส่วนใหญ่ แต่สำหรับ Maxus ในประเทศไทย รถกระบะ Maxus จะใช้ชื่อภายใต้แบรนด์ MG
Cr. Carnewschina