Nissan แย้ม GT-R ไฟฟ้า 1,341 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ Solid-State อาจะเปิดตัวภายในปี 2030 นี้ ชมคอนเซ็ปต์ที่นี่
Giovanny Arroba ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบโครงการของ Nissan ให้สัมภาษณ์กับ Autocar ว่า รถซูเปอร์คาร์ไฟฟ้ามีความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัวภายในทศวรรษนี้ (ภายในปี 2030) ซึ่ง Nissan ไม่ได้เรียกรถรุ่นนี้ว่า GT-R แต่ด้านหน้ารถติดโลโก้ GT-R แบบเบลอ ๆ ไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งบริษัทยังไม่เปิดเผย

Nissan ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ Solid-State ทั้งหมดภายในปี 2028 และถ้าหากเป้าหมายนี้เป็นจริง ก็อาจจะเป็นการปูทางไปสู่การเปิดตัวของรถซูเปอร์คาร์ Hyper Force EV (GT-R) ได้

Hyper Force EV ที่เคยเปิดตัวในงาน Japan Mobility Show เป็นรถซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แห่งอนาคต ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ Solid-State ให้พละกำลังถึง 1,341 แรงม้า (1,000 กิโลวัตต์) และใช้แพลตฟอร์ม e-4ORCE ขั้นสูง ที่เป็นเทคโนโลยี 4WD อยู่ในรถรุ่น Ariya

ในเวอร์ชันซูเปอร์คาร์) ซึ่งรถซูเปอร์คาร์นี้จะมีพละกำลังสูงถึง 1,341 แรงม้า เมื่อเทียบกับรถกะบะไฟฟ้า Tesla Cybertruck รุ่น Cyberbeast ที่มีพละกำลัง 845 แรงม้า จึงถือว่า Hyper Force มีพละกำลังสูงกว่าค่อนข้างมาก ทั้งนี้ Nissan ได้ร่วมพัฒนากับทีมรถแข่ง NISMO ที่ปรับแต่งให้รถมีพละกำลังสูงและมีประสิทธิภาพ โดยออกแบบให้มีโครงสร้าง 2 ชั้นใต้ฝากระโปรงเพื่อเพิ่มแรงกด ส่วนดิฟฟิวเซอร์ที่ด้านหลังก็ช่วยควบคุมการไหลเวียนของอากาศ ทั้งยังมีส่วนอื่น ๆ ที่ช่วยให้รถมีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น ลิ้นที่บังโคลนหน้า ซุ้มล้อกว้าง และปีกด้านหลัง โดยรวมการออกแบบดูสปอร์ตตามสไตล์ของซูเปอร์คาร์  

ภายนอกของ Hyper Force EV นั้นมีรูปลักษณ์คล้ายกับกระบะไฟฟ้า Tesla Cybertruck ที่ย่อส่วนมาอยู่ในขนาดรถแข่งที่ผสมผสานสายเลือดของ Skyline ตำนานของ Nissan ตัวรถกว้างและต่ำ

ด้านหน้ารถติดโลโก้ GT-R แบบเบลอ ๆ ซึ่งหมายถึงโหมด R (Racing) สำหรับการแข่งรถ ภายในห้องโดยสารจะเป็นธีมสีแดง ปรับห้องโดยสารให้กระชับ พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลที่สำคัญสำหรับการแข่ง

ส่วนโหมด GT (Grand Touring) สำหรับการขับขี่แบบทัวร์ริ่ง ที่เน้นความผ่อนคลายด้วยห้องโดยสารธีมสีฟ้า พวงมาลัยเคลื่อนออกจากคนขับ และหน้าตาของระบบอินโฟเทนเมนต์แสดงข้อมูลที่เรียบง่ายกว่าโหมด R

Nissan ร่วมกับทีมแข่ง NISMO ออกแบบภายนอกของรถให้รถมี Aerodynamic โดยโครงสร้าง 2 ชั้นใต้ฝากระโปรงรถนั้นจะช่วยลดแรงกดและช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังจะช่วยควบคุมการไหวเวียนของอากาศ

ปัจจุบันเรายังคงเห็นเพียงแนวคิดของรถซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าเท่านั้น ก็ต้องรอติดามกันต่อไปว่าภายในทศวรรษนี้เราจะได้เห็นการเปิดตัวของ Hyper Force EV หรืออาจจะเรียกว่า GT-R ในอนาคตหรือไม่ และต้องรอลุ้นกันอีกทีว่ารถจริงที่เปิดตัวจะเหมือนกับรถแนวคิดที่เผยออกมาให้ชมกันหรือไม่

อย่างไรก็ตาม Nissan ยังไม่ได้ยืนยันว่า NISMO EV จะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาหรือตลาดอื่น ๆ หรือไม่ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าเราจะได้เห็น GT-R EV จาก Nissan ภายในทศวรรษนี้ตามที่บริษัทเคยกล่าวหรือไม่ และจะวางขายในตลาดประเทศอะไรบ้าง 

Cr. electrek