Honda S2000 AP1 วิ่งเพียง 1,200 กม. ค่าตัว 4 ล้านกว่า! เอาใจนักสะสมโดยเฉพาะ
Honda S2000 AP1 วิ่งเพียง 1,200 กม. ค่าตัว 4 ล้านกว่า! เอาใจนักสะสมโดยเฉพาะ

Honda S2000 ถูกขายในอเมริกาผ่านทาง Vistec R Imports จากสแตมฟอร์ด คอนเนตทิคัต เป็นรถปี 1999 จากตลาดญี่ปุ่น ที่มาพร้อมพวงมาลัยขวา กับขุมกำลังราว 250 แรงม้า (184 กิโลวัตต์) แรงบิด 153 ปอนด์-ฟุต (208 นิวตันเมตร) กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

ซึ่งผู้ที่ขายต้องการราคาค่าตัวไม่น้อยกว่า 120,000 ดอลลาร์ หรือสูงถึง 4.228 ล้านบาท เลยทีเดียว ด้วยราคาระดับนี้ในอเมริการคุณสามารถที่จะซื้อรถใหม่ Porsche 911 Carrera ได้เลยก็ว่าได้

ครั้งอดีตที่ผ่านมา วิศวกรหัวหน้าโครงการพัฒนา S2000 คุณ Shigeru Uehara เคยเล่าไว้ว่า “ทางบริษัทเขาไม่ได้ให้พวกที่ฝ่ายการตลาดเข้ามายุ่งมากนัก ซึ่งก็ดีแล้ว เพราะคราวนี้เราอยากสร้างรถแบบที่มันสะท้อนความคิดของวิศวกร สิ่งนี้ทำให้เรามีโฟกัสในการพัฒนารถที่ชัดเจน ก็ถ้าหากเราต้องทำรถตามความต้องการของการตลาด ของฝ่ายบัญชี หรือของคนทั้งโลก รถของเราก็จะออกมาไม่ต่างจากรถคันอื่นบนถนน สำหรับคันนี้ มันต้องต่างออกไป มันต้องโชว์สมรรถนะแบบที่เราคาดหวังได้จาก Honda” 

พวกเขาเริ่มต้นทดสอบกระแสความนิยมด้วยรถต้นแบบ SSM ซึ่งเป็นรถเปิดประทุน หน้ายาวท้ายสั้น สัดส่วนคลาสสิกแบบโรดสเตอร์อังกฤษเช่นพวก TVR Griffith และ Caterham ซึ่งเวลาลงไปนั่งขับ ร่างกายท่อนบนคุณจะตั้งตรงเหมือนนั่ง แต่ร่างกายท่อนล่างเหยียดไปกับพื้นเหมือนรถแข่งเตี้ยๆ เวลาคุณยื่นนิ้วไปเการ่องก้น นิ้วนั้นจะอยู่ห่างจากชุดเฟืองท้ายและแนวแทร็กล้อหลังแค่ราวฟุตเศษ ลักษณะเช่นนี้ทำให้เวลารถเริ่มกวาดท้ายออก อาการของรถจะส่งมาถึงคนขับได้ชัดเจนกว่ารถที่มีตำแหน่งการนั่งแบบปกติ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งความสนุกของบางท่าน และความน่าขนลุกสำหรับบางคนที่ไม่ชิน

Uehara มองว่า รถแบบนี้จะไม่ใช่รถแข่งสำหรับทำเวลาในสนามทางเรียบ ในคลาสซูเปอร์ซีรีส์ มี NSX รับหน้าที่นั้นอยู่แล้ว ในขณะที่รถขับหน้าอย่าง Integra DC2 Type-R และ Civic Type-R ก็เป็นรถวิ่งสนามที่ทำเวลาได้ดีในพิกัดเล็ก สำหรับ S2000 นั้น มันคือปิศาจท้องถนนที่เล็ก..ร้าย..และได้อารมณ์ ซึ่งการรับรู้ทุกประสาทสัมผัสจะเกิดขึ้นได้เมื่อคุณเปิดหลังคาและไม่มีอะไรมากั้นหูของคุณกับเสียงเครื่องและท่อ ด้วยแนวคิดแบบนี้ทำให้วิศวกร Honda เลือกทำบอดี้รถเป็นแบบเปิดประทุน ใช้หลังคาผ้าใบน้ำหนักเบา แต่ยังสะดวกตรงที่กางและเก็บด้วยไฟฟ้า ถ้าถามว่าทำไมไม่ใช้หลังคาแข็งพับไฟฟ้า ก็ต้องบอกว่าในช่วงนั้น รถหลังคาแข็งพับและกางด้วยไฟฟ้ายังเป็นเรื่องแปลก น่าจะมีแต่ Mercedes-Benz SLK ปี 1996 ที่ทำและเริ่มเป็นเจ้าแรก ไม่นับรถ Honda CR-X Del Sol ที่หลังคาช่วงกลางถอดและติดด้วยระบบไฟฟ้าได้

ช่วงล่างของ S2000 เป็นแบบดับเบิลวิชโบน อิสระ 4 ล้อ ซึ่งในยุค 80s-90s Honda เก๋งธรรมดาๆ ก็ยังใช้รูปแบบนี้ ก่อนที่จะระลึกได้ว่ามันประสิทธิภาพดีแต่จุดซ่อมเยอะและกินที่ ในช่วงหลังจึงปรับหนีไปใช้สตรัทแบบธรรมดาเน้นจ่ายกับข้าวในหลายรุ่น แต่กับ S2000 นี้ ด้วยความที่เป็นรถ “วิศวกรสั่ง” จึงเซตมาในแบบที่เน้นทั้งสมรรถนะและความรู้สึก จะว่าไปก็คือ Uehara นั้นสั่งให้ทีมดูแลช่วงล่าง สร้างรถมาให้มีบาลานซ์ระหว่างความเกาะถนนกับความน่าขนหัวลุก เพราะอะดรีนาลินจะหลั่งเมื่อเราต้องสนองตอบต่อสิ่งที่ไม่ได้คาดว่าจะเกิด ดังนั้นการขับรถให้มันสุดๆ ต้องมีปัจจัยเรื่องความกลัวเข้าไปบ้างแต่พองาม ส่วนพวงมาลัยนั้น อาจจะผิดคาดสำหรับหลายคน เพราะแม้ว่ายุค 90s นั้นพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้ายังเป็นของแปลก แต่ S2000 ใช้แล้ว และในรุ่น Type V นั้นจะมีระบบ VGS ปรับความไวของพวงมาลัยแปรผันตามความเร็วให้อีกด้วย

ขุมพลัง เครื่องยนต์ DOHC VTEC รหัส F20C ซึ่งคุณอย่าได้คิดว่ามันคือเครื่องยนต์ F-Series ที่คุ้นเคยจาก Accord ตาเพชร หรือ F20B VTEC จาก Accord ญี่ปุ่นที่จำหน่ายในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เพราะมันมีความเป็นญาติห่างกันมากๆ มากแบบญาติที่ไม่รู้จักว่าเป็นญาติกันมาก่อน แม้ว่าความจุโดยรวมจะ 1,997 ซี.ซี. เท่ากันแต่ได้มาจากขนาดกระบอกสูบที่แตกต่างกัน ในเครื่อง F20C ของ S2000 นั้น Honda ขยายปากกระบอกสูบให้กว้างขึ้น เพื่อให้สามารถติดตั้งวาล์วไอดี/ไอเสียที่มีขนาดโตกว่า และใช้ระยะชักก้านสูบสั้นลง 4 มม. เหลือ 84 มม. ซึ่งความยาวระยะชักนี้ มีผลอย่างมากสำหรับเครื่องใช้รอบสูง ถ้าเอาเครื่องชักยาวๆ มาลากรอบ 9,000 รอบ 


Cr. carscoops

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง