รูปลักษณ์ของตัวรถที่ดูบึกบึนของรุ่นก่อน ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนหน้ามีกระจังหน้าใหม่ที่กว้างขึ้นโดยไม่มีขอบสีดำคล้ายหนวด มีการปรับแต่งช่องรับอากาศของกันชนและทำให้ไฟหน้าดูดุดันขึ้น ที่ด้านหลัง ไฟท้ายได้รับการขยายออกไป และกันชนหลังได้รับช่องระบายอากาศปลอมพร้อมดิฟฟิวเซอร์สีเดียวกับตัวรถ
มิติตัวถังมีขนาดเพิ่มขึ้น 40 มม. (1.6 นิ้ว) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยมีความยาวเพิ่มขึ้นเป็น 4,715 มม. (185.6 นิ้ว) ขนาดส่วนที่เหลืออื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิม รวมถึงระยะฐานล้อ 2,680 มม. (105.5 นิ้ว)
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ 1.5 ลิตร กำลัง 127 แรงม้า (95 กิโลวัตต์ / 129 PS) จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือ CVT รุ่นเรือธงเครื่องยนต์เทอร์โบ กำลัง 179 แรงม้า (133 kW / 181 PS) แรงบิด 285 นิวตันเมตร (210 lb-ft) ที่ส่งกำลังไปยังเพลาหน้าผ่านเกียร์คลัตช์คู่อัตโนมัติ 7 สปีด
ด้านระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลัง Torsion Beam แบบสปอร์ตแปรผันตามความเร็ว พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ
ภายในห้องโดยสารปรับใหม่ แผงแดชบอร์ดจะมากับมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่วางฝังไว้บนคอนโซลหน้า โดยมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสามก้านทรง D-Shape อยู่ด้านหน้า มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสใหม่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่ถูกวางแบบลอยตัว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย มาพร้อมระบบอัจฉริยะ Zebra Venus ที่ควบคุมสั่งงานด้วยเสียง
สำหรับ MG5 สปอร์ตคูเป้รุ่นปรับโฉมใหม่ จะได้รับการเปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งราคาจำหน่ายในวันที่ 30 สิงหาคม 2024 ที่จะถีงนี้ ที่งาน Chengdu Auto Show ในประเทศจีน