JAMA หรือ Japanese Automobile Manufacturers Association (สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น) เปิดเผยยอดขายรถทุกแบรนด์ในญี่ปุ่นปี 2022 ลดลงร้อยละ 5.6
โดยยอดขายรถยนต์นั่ง 2,223,303 คัน (ลดลงร้อยละ 7.4) ยอดขายรถ Kei Car ลดลง 4% เป็น 1,224,995 คัน อันเป็นผลเนื่องมาจากการขาดแคลนชิป และเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกเป็นเวลานาน ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องระงับการผลิตรถ หรือลดการผลิตลง
และในส่วนของยอดขายรถ Kei Truck / Kei Van 413,142 คัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7) รถบรรทุก 334,401 คัน (ลดลงร้อยละ 14.1) รถโดยสาร 5,480 คัน (ลดลงร้อยละ 20.3) อันเป็นผลเนื่องมาจากการขาดแคลนชิป และเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกเป็นเวลานาน ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องระงับการผลิตรถ หรือลดการผลิตลง
สามารถแยกจำนวนตามยี่ห้อรถ (เฉพาะแบรนด์รถญี่ปุ่น) ได้ดังนี้
1. Toyota 1,247,585 คัน
2. Suzuki 602,721 คัน
3. Daihatsu 575,559 คัน
4. Honda 568,003 คัน
5. Nissan 449,458 คัน
6. Mazda 161,308 คัน
7. Subaru 100,858 คัน
8. Mitsubishi 90,555 คัน
9. Isuzu 42,951 คัน
10. Hino 41,686 คัน
11. Lexus 41,252 คัน
12. Fuso 27,364 คัน
13. UD Trucks 9,737 คัน
14. อื่นๆ 242,284 คัน
และจำนวนรถยนต์นั่งซึ่งมียอดจดทะเบียนในญี่ปุ่น 3,448,297 คัน หรือเท่ากับร้อยละ 82.1 ของจดทะเบียนรวม แยกจำนวนตามยี่ห้อรถ (เฉพาะแบรนด์รถญี่ปุ่น) ได้ดังนี้
1. Toyota 1,059,842 คัน
2. Honda 534,658 คัน
3. Suzuki 478,987 คัน
4. Daihatsu 390,052 คัน
5. Nissan 379,459 คัน
6. Mazda 150,115 คัน
7. Subaru 92,091 คัน
8. Mitsubishi 81,058 คัน
9. Lexus 41,252 คัน
10. อื่นๆ 240,783 คัน
สำหรับตัวเลขยอดขายในปี 2022 ยังถือได้ว่าลดต่ำกว่าตัวเลขยอดขายรถในปี 2011 (รถยนต์ใหม่ 4,210,219 คัน) เมื่อตลาดประสบกับภาวะตกต่ำอย่างมากเนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่น ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี นับตั้งแต่ปี 1977
แหล่งที่มาจาก
-Best Selling Cars