เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม สำนักข่าว นิเคอิ (Nikkei Asia) รายงานว่า ฮอนด้า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น วางแผนจะลดกำลังการผลิตรถยนต์เชื้อเพลิงในตลาดจีนประมาณ 30% ด้วยมาตรการต่างๆ เช่น การปิดโรงงาน จะทำให้กำลังการผลิตรถยนต์ลดลงประมาณ 500,000 คัน ซึ่งก็คือ คิดเป็นประมาณ 10% ของการผลิตทั่วโลกของฮอนด้า

โดยฮอนด้าจะยุติโรงงานผลิต ถึง 3 แห่ง จาก 7 แห่งในจีน โดยจากข้อมูล เผยแล้วว่า โรงงานในกวางโจวจะปิดตัวลงในเดือนตุลาคม และโรงงานแห่งหนึ่งในหวู่ฮั่นจะหยุดการผลิตตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ทำให้การผลิตรถยนต์พลังงานน้ำมันของฮอนด้าลดลงจาก 1.49 ล้านคันต่อปี เป็น 1 ล้านคันต่อปี นับเป็นการลดกำลังการผลิตครั้งแรกในจีนของฮอนด้า และเป็นการลดครั้งใหญ่ที่สุด ท่ามกลางเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ

จากตามรายงาน ได้เผยสาเหตุว่า มาจากผลกระทบของสงครามราคาระหว่างบริษัทรถยนต์จีน ยอดขายของฮอนด้าในเดือนมิถุนายนจึงลดลง 40% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่อย่างไรก็ตาม จีนยังคงเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นกำลังเร่งการเปลี่ยนแปลงและเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วน และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเพื่อพลิกสถานการณ์ การลดกำลังผลิต และ ปิดโรงงานในประเทศจีนบางแห่งถือเป็นการลดค่าใช้จ่ายครั้งแรกของ Honda ในจีน และการปรับลดขนาดการผลิตในจีนครั้งนี้ แสดงถึงการปลีกตัวออกจากแนวทางขยายการผลิตแบบเดิมที่ใช้มาตั้งแต่สมัยทศวรรษ 1990 ในช่วงที่จีนกลายเป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของฮอนด้าแซงหน้าสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ ฮอนด้ายังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรร่วมทุนอย่าง GAC Group และ Dongfeng Motor Group และคาดว่าจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการได้เร็วที่สุดในปีนี้