นิสสัน สั่งปิดโรงงานผลิดรถยนต์ในจีน หลังยอดขายต่ำ สู้ EV ราคาถูกของจีนไม่ไหว
นิสสัน สั่งปิดโรงงานผลิดรถยนต์ในจีน หลังยอดขายต่ำ สู้ EV ราคาถูกของจีนไม่ไหว

บริษัทนิสสัน มอเตอร์ของญี่ปุ่น เตรียมจะปิดโรงงานผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน โดยแหล่งข่าวเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (21 มิ.ย.) จากสำนักข่าวเกียวโด ที่ได้อ้างอิงแหล่งข่าวพร้อมรายงานว่า นิสสันต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น จนประสบปัญหายอดขายที่ลดลงในตลาดรถยนต์จีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากตัวเลือกที่จำกัดของรถยนต์ไฟฟ้าล้วน ถือเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับบริษัทญี่ปุ่น เนื่องจากจีนกำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า โรงงานในเมืองฉางโจวมีศักยภาพในการผลิตรถยนต์ได้ประมาณ 130,000 คันต่อปี คิดเป็นประมาณ 10% ของการผลิตของนิสสันในประเทศจีน โรงงานดังกล่าวซึ่งเริ่มดำเนินการในเดือนพ.ย. 2563 มีกำหนดหยุดดำเนินงานในวันศุกร์ และการผลิตยานยนต์อเนกประสงค์ที่นั่นจะถูกโอนไปยังโรงงานของนิสสันแห่งอื่นในจีน

ทั้งนี้ นิสสันมีโรงงาน 8 แห่งในจีนผ่านความร่วมมือกับบริษัทตงเฟิง มอเตอร์ คอร์ปซึ่งเป็นของรัฐบาลจีน โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์รวมประมาณ 1.6 ล้านคันต่อปี

การปิดโรงงานครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นหลังจากที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอีกรายหนึ่ง ตัดสินใจเลิกผลิตรถยนต์ในจีนไปเมื่อปีที่แล้ว เช่นเดียวกับฮอนด้า มอเตอร์ ที่ลดพนักงานประจำด้านการผลิตในจีนด้วย

ข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน แสดงให้เห็นว่า นับถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น มีส่วนแบ่งตลาดในจีน ลดลงมาอยู่ที่ 12.1% จากระดับ 23.1% ในปี 2563 ขณะที่แบรนด์ท้องถิ่นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 61.3% จาก 38.4% ในช่วงเวลาเดียวกันนี้

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง