เมื่อไม่นานมานี้ TOYOTA AQUA รุ่นพิเศษ Raffine ได้ออกมาประกาศราคาจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2024 ที่ผ่านมา โดยเริ่มจำหน่ายในราคาที่ 2,667,000 - 2,837,000 เยน หรือ 623,000 - 666,000 บาท ที่มาพร้อมขุมพลังเบนซินไฮบริด 1.5 ลิตร
ไม่เพียงเท่านั้น ดีไซน์ภายนอก็ยังมาพร้อม กรอบกระจังหน้าสีบรอนซ์ เมทัลลิก กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยว LED สีดำ ส่วนหลังคาเป็นทูโทนสีดำ นอกจากนี้กระจกมองข้างยังสามารถปรับไฟฟ้าอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยว LED สีดำ และเพิ่มเอกลักษณ์ด้วยสัญลักษณ์ Raffine ส่วนล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วสีบรอนซ์
ในขณะที่ภายในห้องโดยสารเป็นสีบรอนซ์เมทัลลิกแทบทั้งตัวรถ รองรับ 5 ที่นั่ง เป็นเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ-กรมเข้ม ที่หุ้มเบาะก็ยังเป็นสีบรอนซ์สวย มีสัญลักษณ์แผงภายใน Raffine ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 10.5 นิ้ว เป็นอุปกรณ์ พร้อมพรมปูพื้น และไฟฉายภาพ (สำหรับรถยนต์รุ่นพิเศษ) นอกจากนี้ยังมาพร้อมคันเกียร์อิเล็กทรอนิกส์แบบเดียวกับ Prius พร้อมที่พักแขนตรงกลางแบบสบายๆ
ขนาดตัวถัง 2024 TOYOTA AQUA
ความยาว: 4,050 มม.
ความกว้าง: 1,695 มม.
ความสูง: 1,485 มม.
ระยะฐานล้อ: 2,600 มม.
มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน + ไฮบริด 1.5 ลิตร รหัส M15A-FXE 1.5 ลิตร 3 สูบ มอเตอร์ (THSⅡ) ให้กำลัง 91 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิตสูงสุด 120 นิวตัน-เมตรที่ 3,800 – 4,800 รอบต่อนาที พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า ให้กำลังสูงสุด 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตัน-เมตร ให้กำลัง มอเตอร์ไฟฟ้าหลัง 5.3 แรงม้า แรงบิด 52 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ขนาด 5.0Ah ระบบขับเคลื่อน คือ 2WD และ 4WD ที่มีระบบส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่องด้วยไฟฟ้านั่นเอง
โดย โหมวดการขับเคลื่อน 2WD มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 33.6 กม./ลิตร WLTC หากขับในเมือง ก็แระหยัดได้มากถึง 34.3 กม./ลิตร WLTC นอกเมือง 36 กม./ลิตร WLTC และทางหลวง 31.8 กม./ลิตร WLTC
ส่วน การขับเคลื่อนด้วย 4WD มีอัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 30.0 กม./ลิตร WLTC ส่วนในเมือง 32.0 กม./ลิตร WLTC นอกเมือง 31.1 กม./ลิตร WLTC และ ทางหลวง 28.5 กม./ลิตร WLTC
ระบบความปลอดภัยก็ยังครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบกันชน, ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ, ระบบรักษาความเร็วด้วยเรดาร์, ระบบอ่านป้ายจราจร คุมคุมไฟสูงอัติโนมัติ ระบบมองภาพพาโนรามา หรือ ระบบช่วยจอด และอื่นๆอีกมากมาย