Chrysler (ไครสเลอร์) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่ม Stellantis (สเทลแลนทิส) ในปัจจุบันนั้น บริษัทเหลือรถจำหน่ายใน Line-Up แค่เพียง 2 รุ่น นั่นคือ Pacifica และ 300 เท่านั้น ถึงแม้ว่ารถยนต์รุ่นใหม่กำลังจะมาถึง แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอีก 1 ปี
ดังนั้นทีมออกแบบของ Chrysler จึงได้สร้างรถต้นแบบคันนี้ขึ้นไปพลางๆ ก่อน ซึ่งก็คือ Chrysler Halcyon Concept เพื่อช่วยรักษาศรัทธาของแฟนๆ เอาไว้
Chrysler Halcyon เป็นรถยนต์ซีดานไฟฟ้าขนาด 4 ที่นั่ง ที่มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่ได้เคยเห็นจาก รถ Chrysler รุ่นก่อนๆ ดูเหมือนผลลัพธ์จากความพยายามของทีมออกแบบ Tesla (เทสลา) ในการสร้าง Model 3 ปี 2028 ให้ดูคล้ายกับ Aston Martin Valhalla ซึ่งรวมถึง Airflow Concept ปี 2022 ที่ผ่านมา
สำหรับ Chrysler Halcyon ยังคงเป็นเพียงรถยนต์แนวคิดเท่านั้น และยังไม่รู้ว่าการออกแบบนี้ใกล้เคียงกับการผลิตรถ EV ที่กำหนดไว้ในปี 2025 มากเพียงใด เนื่องด้วยคุณสมบัติการออกแบบที่แปลกประหลาดกว่ารถที่ขายโดยทั่วไป
Design Concept มาพร้อมการออกแบบที่เหมือนซูเปอร์คาร์ ความสูงจากพื้นรถเพียงแค่ 100 มม. หลังคาตรงกลางที่เกือบจะเหมือนรถแข่ง และแถบไฟหน้าและไฟท้ายที่บางเฉียบ
Ralph Gilles และทีมออกแบบของเขาได้สานต่อรายละเอียดแปลกๆ จาก Airflow Concept ซึ่งรวมถึงโลโก้ปีกเรืองแสงบนฝากระโปรงหน้า แม้ว่าจะมีประตูปีกผีเสื้อและส่วนหลังคาแบบพลิกขึ้น
แต่ก็คาดว่าองค์ประกอบนี้ จะไม่ถูกส่งต่อไปถึงรุ่นรถขายจริง ส่วนการผสมผสานระหว่างขอบที่คมชัดและส่วนโค้งตัวถังอันเย้ายวน อาจส่งต่อไปได้ และกระจกบังคมยาวจนจะจรดพื้น กับช่องลมขนาดใหญ่ข้างประตู มุมมองข้างหน้าผ่าน Scuttle แบบต่ำ กับบังโคลนที่มียอดแหลมสองอัน อาจช่วยดึงดูดความสนใจได้
ห้องโดยสารภายในมาพร้อมเบาะนั่งที่ห่างไกลจากการผลิต และพวงมาลัยทรงสี่เหลี่ยมที่ใช้งานไม่ได้ คอนโซลกลางจะเผยให้เห็นหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ Chrysler กล่าวว่า 95% ของการตกแต่งภายใน ทำจากวัสดุที่ยั่งยืน
Chrysler ไม่ได้กล่าวอะไรมากเกี่ยวกับระบบส่งกำลัง แต่ก็ยืนยันว่า Halcyon Concept ถูกสร้างขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์ม Stellatis STLA Large EV ที่รองรับรถยนต์ที่มีความยาวระหว่าง 4,764-5,126 มม. และมีระยะฐานล้อระหว่าง 2,870-3,075 มม. ทำให้มีขนาดพอๆ กับตัวรถ Tesla Model 3
นอกจากนี้ แพลทฟอร์ม Stellatis STLA Large EV ยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จทั้ง 400V และ 800V ซึ่งสามารถนำเสนอชุดแบตเตอรี่ระหว่าง 85-118 kWh และวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 800 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง รวมถึงยังปรับให้กำหนดค่าขับเคลื่อนล้อหน้า, ล้อหลัง และขับแบบ 4 ล้อ ได้
แหล่งที่มาจาก
- Carscoops