Nissan (นิสสัน) เปิดตัว Nissan GT-R (R35) รุ่นปี 2025 ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงตัวเลือกภายในโทนสีฟ้าใหม่ รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งบางส่วนจาก Nismo ในรุ่น T-Spec และ Track Edition ซึ่งมีข่าวลือว่า Nissan GT-R (R35) รุ่นปี 2025 จะเป็นปีสุดท้ายของ R35 นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2007
สำหรับรูปโฉมภายนอกของ Nissan GT-R (R35) รุ่นปี 2025 ไม่ได้มีการอัปเดตภายนอกใดๆ ทั้งสิ้น โดยยังคงเดิมเช่นการปรับโฉมก็อตซิลล่าไปในปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการตกแต่งภายใน แม้ว่าในรุ่น Premium Edition จะมีตัวเลือกโทนสีฟ้า Blue Heaven ใหม่ภายในห้องโดยสาร
ในส่วนของรุ่นย่อย Premium Edition, T-Spec และ Track Edition มีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของเครื่องยนต์ นั่นคือแหวนลูกสูบ ก้านสูบ และเพลาข้อเหวี่ยงที่อัปเกรดใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีเฉพาะใน Nismo เท่านั้น
ส่งผลให้เครื่องยนต์ V6 ทำงานได้ "รอบเร็วขึ้นและ Turbo มาไว้ขึ้น" พร้อมแผ่นป้ายอะลูมิเนียมที่มีชื่อของวิศวกร “Takumi” ที่ทำการประกอบเครื่องยนต์ด้วยมือ และแผ่นเพลทสีทองในห้องเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร Twin Turbo ให้กำลังสูงสุด 573 แรงม้า (PS) ในรุ่นมาตรฐาน และ 608 แรงม้า (PS) ในรุ่นเรือธง Nismo
สำหรับ Nissan GT-R (R35) รุ่นปี 2025 พร้อมให้สั่งซื้อแล้วในญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะส่งมอบในเดือนมิถุนายน ส่วนราคาได้ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเริ่มต้นที่ 14,443,000 เยน หรือประมาณ 3,473,000 บาท สำหรับ GT-R Pure Edition ไปจนถึง 30,613,000 เยน หรือประมาณ 7,363,000 บาท สำหรับรุ่น Nismo Special Edition ที่แพงที่สุด
อีกทั้งนิตยสาร Mag X ของญี่ปุ่น ยังรายงานว่าการจำหน่าย Nissan GT-R (R35) รุ่นปี 2025 จะจำกัดการผลิตไว้ที่ 1,500 คัน แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Nissan (นิสสัน)
อนาคตของของ GT-R นั้น ได้รับการแสดงผ่านรถต้นแบบ Nissan Hyper Force Concept ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่งาน Japan Mobility Show แม้จะมีรูปลักษณ์ที่ดุดัน แต่ Hyper Force ก็ดูจะมีความเป็นไปได้ในการผลิตจริง โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงบอกเป็นนัยว่าจะมาถึงภายในสิ้นทศวรรษนี้
แหล่งที่มาจาก
- Carscoops