VinFast (วินฟาสต์) มีฐานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่อยู่ที่เมือง Hai Phong (ไฮฟอง) เมืองใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม และกำลังสร้างโรงงานมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรัฐนอร์ธแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา และพร้อมสร้างโรงงานผลิตอีกแห่งหนึ่งในรัฐทมิฬนาฑูของอินเดีย และมีแผนอีกแห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย

VinFast ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Vingroup กลุ่มบริษัทที่นำโดย Pham Nhat Vuong บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของเวียดนาม ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้เปิดตัวในปี 2017 โดยผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ก่อนที่จะหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอีก 5 ปีต่อมา 

ซึ่ง VinFast เริ่มจำหน่าย VinFast VF8 ในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมีนาคม 2023 แต่นักวิจารณ์ต่างพากันตำหนิ ถึงเรื่องคุณภาพการขับขี่ของรถกันมาก

อย่างไรก็ตาม หุ้นของบริษัทก็เพิ่มขึ้น 504% ในช่วง 6 วันหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO ในเดือนสิงหาคม 2023 ที่ Nasdaq มูลค่าตลาดของ VinFast เกินช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะร่วงลงแบบทิ้งดิ่ง จากจุดสูงสุดที่ประมาณ 190 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบันมูลค่าตลาดของบริษัทอยู่ที่เพียง 11.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ปัญหาหนึ่งเกี่ยวกับหุ้นของ VinFast ก็คือ Vuong เป็นเจ้าของหุ้นเกือบทั้งหมด โดยปัจจุบันมีนักลงทุนเพียงประมาณ 2% เท่านั้นที่สามารถซื้อได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาจำนวนมากได้ VinFast กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่ามีแผนจะเพิ่มหุ้นที่มีอยู่เป็น 10% ถึง 20% ภายในสิ้นปีนี้

แน่นอนว่า VinFast ไม่ใช่ผู้ผลิต EV เพียงรายเดียวที่ดิ้นรนเพื่อสร้างผลกำไร การเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า แม้จะยังแข็งแกร่ง แต่กำลังชะลอตัวในสหรัฐอเมริกาและตลาดอื่นๆ

ล่าสุด VinFast ยังทำยอดขายไม่ได้ตามเป้า แม้ว่ารายได้รวมในปี 2023 จะอยู่ที่ 1,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 91% แต่ยังคงขาดทุนสุทธิอยู่ 2,390 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าปี 2022 ราว 14.7%

และ VinFast ยังส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้เพียง 34,855 คันในปี 2023 พลาดเป้าหมายที่บริษัทตั้งเอาไว้ที่ 50,000 คัน

อย่างไรก็ตาม VinFast ยังมีแผนที่จะเพิ่มยอดส่งมอบรถยนต์ให้ได้ถึง 100,000 คันในปี 2024 และเตรียมรุกเข้าสู่ตลาดอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสหรัฐฯ แคนาดา และยุโรป

โดยผู้บริหาร VinFast ตั้งเป้าหมายว่าบริษัทน่าจะถึงจุดคุ้มทุน (Break-Even Point) ภายในปี 2025 นี้

แหล่งที่มาจาก
- Fortune