การเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟฟ้าในยุคนี้ ดูเหมือนจะพบกับการต่อต้านอยู่บ้าง อีกทั้งปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ซื้อรถยนต์ในสหรัฐฯ ก็เลิกซื้อรถโมเดลระดับรุ่น Top ไปด้วย ฉะนั้น Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) จึงประกาศแผนการมุ่งเน้นไปที่รถยนต์ระดับเริ่มต้น โดยผสมผสานรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเข้าด้วยมากขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์

ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายใช้กลยุทธ์ที่เน้นมาร์จิ้นในช่วงหลายปีก่อน ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากอุปทานมีน้อย อุปสงค์ที่ลดฮวบฮาบ อัตราดอกเบี้ยใกล้ติดศูนย์ แต่การผลิตรถยนต์หรูหราระดับไฮเอนด์ก็ยังขายได้ขายดีในหลายยี่ห้อ แต่ตอนนี้กลยุทธ์ดังกล่าวไม่ได้ผล เนื่องจากอุปทานเพิ่มขึ้นมาก และอัตราดอกเบี้ยก็มากเช่นกัน

เพื่อรักษาตัวเลขยอดขายให้สูงขึ้น มีรายงานว่า Mercedes-Benz แจ้งกับตัวแทนจำหน่ายในการประชุมเมื่อเดือนมกราคมว่า จะเปลี่ยนการจัดหารถโดยเน้นไปที่รุ่นราคาที่ต่ำกว่า และให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าน้อยลง โดยการสั่งซื้อครั้งแรกจะเป็นรถยนต์ระดับเริ่มต้น เช่น GLC 

นอกจากนี้ จะเพิ่มการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปและรถไฮบริด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในสหรัฐอเมริกา นั่นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากสิ่งที่ Nissan (นิสสัน) กำลังทำอยู่มากนัก

นักวิเคราะห์ดูเหมือนจะมีมุมมองเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ “Mercedes-Benz กำลังอยู่กับความเป็นจริง แทนที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงมัน” Ivan Drury ผู้อำนวยการด้านข้อมูลเชิงลึกของ Edmunds กล่าวกับ Autonews 

“ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถบินได้สูงเท่านั้น ก่อนที่คุณจะขาดการติดต่อ รถยนต์คลาสระดับเริ่มต้น ช่วยให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากพวกเขาสามารถอยู่ร่วมกับครอบครัวของแบรนด์ได้”

เมื่อได้ยินตัวแทนจำหน่ายพูด ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ตื่นเต้นกับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากนัก “ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทำให้ฉันสำลัก” ตัวแทนจำหน่ายของ AutoNews กล่าว “ฉันอยากได้รถยนต์ระดับเริ่มต้นที่มีอัตราการขายหมุนเวียนน้อยกว่า 30 วัน ซึ่งฉันทำกำไรได้เพียงเล็กน้อย แทนที่จะเก็บสต็อกรถยนต์ไฟฟ้า มูลค่า 100,000 ดอลลาร์ ไว้เป็นเวลาครึ่งปี แล้วสูญเสียเงินส่วนต่างไป”

แหล่งที่มาจาก
- Carscoops