Cupra (คูปร้า) แบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงจาก Seat (เซียท) ที่แยกออกมาจากรถรุ่น Seat Cupra ของประเทศสเปน ภายใต้การบริการของ Volkswagen group (โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป) เปิดตัว Cupra Tavascan (คูปร้า ทาวาสแคน) รถ SUV แบบ Crossover รุ่นที่ 4 ของทางค่ายที่พัฒนามาจาก Tavascan Concept ที่นำออกมาโชว์เมื่อปี 2019 ซึ่งขยับมาใช้เป็นแบบรถยนต์ไฟฟ้า 100%
Cupra Tavascan พัฒนาบนแพลทฟอร์ม MEB ของ Volkswagen Group แบบเดียวกับรถตระกูล ID. Series โดย Cupra Tavascan จะผลิตขึ้นในประเทศจีน โดย Volkswagen Anhui (หรือชื่อเดิม JAC-Volkswagen) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง VW กับทาง JAC Motors
ตัวรถภายนอก ออกแบบขึ้นโดยทีมงานในบาร์เซโลนา ตามภาษาการออกแบบใหม่ที่เน้นความโฉบเฉี่ยว กระจังหน้า กันชนหน้าทรงจมูกฉลาม ชุดไฟหน้าทรงสามเหลี่ยมวงซ้อนกัน 3 ชิ้น แบบ LED ตามสัญลักษณ์แบรนด์คูปร้า พร้อมตกแต่งวัสดุสีดำเงาตามจุดต่างๆ รอบคัน และล้ออัลลอยที่แบบไม่ต้านลมขนาด 19-21 นิ้ว (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย)
ส่วนด้านท้ายลาดเอียงเหมือนรถคูเป้ มีสปอยเลอร์หลังขนาดเล็กที่ฝากระโปรงท้าย ชุดไฟท้ายแบบ LED แนวยาว พร้อมตราโลโก้ Cupra เรืองแสง และ Diffuser ที่กันชนด้านท้ายขนาดใหญ่
มิติตัวรถยาว 4,644 มม. กว้าง 1,861 มม. สูง 1,597 มม. และระยะฐานล้อ 2,766 มม.
ห้องโดยสารภายในดูหวือหวา ด้วยการใช้กระดูกสันหลังส่วนกลาง หรือ “Central spine” เชื่อมคอมโซลกลางเข้ากับช่องแอร์และแผงแดชบอร์ด มาพร้อมมาตรวัดดิจิทัลขนาด 5.3 นิ้ว หน้าจอ Infotainment ขนาด 15 นิ้ว แบบลอยตัว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay พร้อมหน้าจอ AR HUD และด้านล่างเป็นแผงทัชบาร์สำหรับควบคุมระดับเสียง และระบบปรับอากาศแบบสัมผัส
ส่วนการตกแต่งภายในใช้วัสดุสีทองแดง มาพร้อมชุดไฟ Ambient Light, สคัฟเพลทที่ธรณีประตุแบบเรืองแสง, เบาะที่นั่งแบบสปอร์ตทำจากวัสดุรีไซเคิล ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง และฝากระโปรงท้ายแบบไฟฟ้าที่เปิดออกเพื่อเผยให้พร้อมพื้นที่จัดเก็บสัมภาระความจุมากถึง 540 ลิตร
ด้านระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ มาจะแบบเดียวกับที่อยู่ในรถของทาง VW รุ่นใหม่ๆ อาทิ ระบบ Car2X ใช้การประมวลผลข้อมูลจากรถคันอื่นๆ และระบบขนส่งในพื้นที่ ช่วยประเมินความเสี่ยงแบบรีลไทม์, ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ, ระบบแปรผันความเร็วแบบอัจฉริยะ, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง, ระบบช่วยสังเกตุเครื่องหมายจราจร
อีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้คือ ระบบช่วยขับแบบกึ่งอัตโนมัติ Travel Assist ที่ทำงานร่วมกับระบบ Adaptive cruise control ร่วมกับระบบ Lane Centering และระบบ Lane Change Assist นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยนำรถจอดเข้าข้างทางโดยอัตโนมัติพร้อมเปิดไฟฉุกเฉิน, ระบบช่วยจอด Assisted Parking พร้อมฟังก์ชั่น Trained Parking ที่ช่วยจำท่าทางการจอดในระยะ 50 เมตร โดยคนขับสามารถลงจากรถ และสั่งงานผ่าน Cupra app บนสมาร์ทโฟนให้รถเข้าจอดเองได้ในจุดปลอดภัย และระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเปิดประตูลงจากรถ
ขุมพลังมีทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว และรุ่นขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ โดยรุ่นเริ่มต้นใช้ชื่อรุ่นว่า Tavascan Endurance มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยววางบนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 545 นิวตัน-เมตร
ส่วนรุ่นท๊อป Tavascan VZ จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 679 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.6 วินาที โหมดการขับขี่มีให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ Range, Comfort, Performance และ Cupra
สำหรับชุดแบตเตอรี่แพคใช้แบบ ลิเธียม-ไอออน ความจุ 77 kWh โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ วิ่งได้ระยะทาง 550 กิโลเมตร เมื่อชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อเ ให้ระยะทางการวิ่ง 520 กิโลเมตร เมื่อชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP)
รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ AC กำลังไฟฟ้าสูงสุด 22 kW และชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง DC กำลังไฟฟ้าสูงสุด 135 kW ให้กำลังไฟจาก 0 - 80% ภายใน 30 นาที แต่ถ้าชาร์จแบบเร่งรีบแค่ใช้เวลาเพียง 7 นาที ก็จะได้ระยะทางวิ่งถึง 100 กิโลเมตร
Cupra Tavascan มีสีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีบรอนซ์ทอง Century Bronze Matte, สีน้ำเงิน Tavascan Blue, สีฟ้า Atacama Desert, สีเทา Urano Grey, สีแดง Hypernova Red และสีขาว White Silver
สำหรับ Cupra Tavascan จะผลิตที่โรงงานของ Volkswagen เมืองอานฮุย ประเทศจีน พร้อมเปิดราคาและลงขายในตลาดยุโรปปี
2024 นี้