Mazda USA (มาสด้า) เปิดตัว Mazda MX-5 Miata (มาสด้า MX-5 Miata) หรือ Mazda Roadster ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น รุ่นปี 2024 ซึ่งได้ปรับปรุงเพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมกับระบบความปลอดภัยใหม่ๆ และสมรรถนะที่พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อเอาใจแฟนๆ รถเปิดประทุน ตามรุ่นที่ปรับโฉมไปในญี่ปุ่นเมื่อหลายเดือนก่อน
ซึ่งการปรับโฉมล่าสุดของ Mazda Roadster (ND) นับตั้งแต่เปิดตัวไปในปี 2014 จะยังคงช่วยยืดอายุตลาดของโฉมนี้ออกไปได้อีก 2-3 ปี เนื่องจากรุ่นถัดไป คาดว่าจะมาถึงช่วงปลายปี 2025 นี้
รูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมชุดไฟหน้าแบบ LED ใหม่ ที่มีชุดไฟ Daytime Running Light รวมอยู่ในโคมไฟหน้าด้วย จากเดิมที่อยู่บริเวณกันชนหน้าของรถ ส่วนชุดไฟท้ายเป็นแบบ LED และชุดไฟเลี้ยวก็เป็นแบบ LED ด้วยเช่นกัน พร้อมตัวรถสีเทาใหม่ Aero Grey Metallic ให้เลือก
อีกทั้งบริเวณด้านซ้ายของช่องรับลมกันชนหน้า ยังติดตั้งเรดาร์เซ็นเซอร์สำหรับการทำงานของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน และระบบ Smart Brake Support ซึ่งจะหยุดรถอัตโนมัติเมื่อถอยหลังที่ความเร็วไม่เกิน 15 กม./ชม. หากตรวจจับพบวัตถุกีดขวาง รวมถึงล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 16 - 17 นิ้ว
นอกจากนี้ ยังมาทั้งแบบหลังคาอ่อน Soft Top และหลังคาแข็ง RF พับเก็บได้ โดยมีโทนสี Tan ให้เลือกในรุ่นย่อย Grand Touring
ส่วนห้องโดยสารภายใน มาพร้อมแผงแดชบอร์ดที่ทันสมัยมากขึ้น มีหน้าจอ Infotainment ใหม่ ขนาด 8.8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบ Mazda Connect กับปรับพวงมาลัยไฟฟ้า เพื่อลดการเสียดสี และให้ความรู้สึกตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการทรงตัวขณะเข้าโค้ง Kinematic Posture Control หรือ KPC ที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด กับระบบเฟืองท้ายแบบ Asymmetrical Limited-Slip Differential ใหม่ เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถที่ใช้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้ดีขึ้น พร้อมเพิ่มโหมด DSC-Track เข้ามา ช่วยให้ควบคุมเสถียรภาพของรถที่มีกำลังมากขึ้น หากผู้ขับไม่สามารถควบคุมรถได้
ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์มีการเพิ่มกำลังทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร อีก 4 แรงม้า เป็น 134 แรงม้า กับประหยัดน้ำมันมากขึ้น ขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ปรับปรุงซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อให้การตอบสนองดีขึ้น และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
สำหรับ Mazda MX-5 Miata รุ่นปี 2024 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย นั่นคือ Sport, Club และ Grand Touring ในราคา 28,985 - 35,205 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,030,000 - 1,252,000 บาท