กลุ่ม Stellantis (สเตลแลนทิส) ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ โดย CEO Carlos Tavares กล่าวเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ว่าบริษัทต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการถูกดึงดูดเข้าสู่สงครามราคา ที่จะทำลายความสามารถในการทำกำไร และส่งผลเสียต่อผู้ผลิตรถยนต์หลายราย ในการทำธุรกิจ
Tavares นำเสนอแพลตฟอร์มใหม่ของกลุ่มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ STLA Large โดยกล่าวว่า Stellantis เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำกำไรได้มากที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ ในขณะที่ค่ายรถคู่แข่งบางราย ยังทำราคารถที่ต่ำมากจนอาจ "ประสบปัญหา" ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงที่ธุรกิจจะเจ๊ง หรือถูกซื้อกิจการโดยบริษัทอื่นได้
“หากคุณลดราคาโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงของต้นทุน คุณจะต้องนองเลือด ผมกำลังพยายามหลีกเลี่ยงการแข่งขันไปสู่จุดต่ำสุด” เขากล่าว
“ผมรู้จักบริษัทแห่งหนึ่งที่ลดราคารถอย่างไร้ความปราณี และความสามารถในการทำกำไรของพวกเขาก็พังทลายลงอย่างไร้ความปราณี” เขากล่าวโดยไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Tesla (เทสลา) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นคู่แข่งกัน ประกาศลดราคารถยนต์ Tesla Model Y ทั่วยุโรป หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ลดราคาในจีน เมื่อเผชิญกับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่แน่นอน
ส่วนปัญหาที่เกิดจากปัญหาการขนส่งในทะเลแดง Stellatiss ก่อนหน้านี้กล่าวว่า ต้องอาศัยการขนส่งทางอากาศมากขึ้น เพื่อรับมือกับการหยุดชะงักชั่วคราวของห่วงโซ่อุปทาน
ปัจจุบัน กลุ่ม Stellantis มีแบรนด์รถยนต์ในสังกัดถึง 14 แบรนด์ อาทิ Abarth, Alfa Romeo, Chrysler, Citroën, Dodge, DS (แบรนด์หรูของซีตรอง), Fiat, Jeep, Lancia, Maserati, Opel, Peugeot, RAM Trucks และ Vauxhall
แหล่งที่มาจาก
- Reuters