Hertz (เฮิรตซ์) บริษัทให้เช่ารถยนต์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศว่าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ประมาณ 1 ใน 3 จากที่มีบริการให้เช่าอยู่กว่า 60,000 คันในขณะนี้ ซึ่งพลิกผันจากสิ่งที่เคยเดิมพันใหญ่ไว้หลายประการ ที่บริษัทวางแผนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยจะเปลี่ยนกลับไปใช้รถยนต์ใหม่แบบเครื่องยนต์สันดาปเข้าประจำการแทน
Stephen Scherr CEO ของ Hertz ได้กล่าวกับ Jim Cramer ของ CNBC ในรายการ "Squawk on the Street" เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ก่อนหน้านั้น บริษัทฯ ได้มีคำสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจาก Tesla และ GM EV เป็นจำนวนมากนั้น เพราะเชื่อว่าความเป็นจริงของรถ EV ซึ่ง Tesla เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุด ก็น่าจะทำให้รถแบรนด์นี้ กลายเป็นรถเช่าที่ดีที่สุด ที่คนอยากเช่ามาใช้ไปด้วย
แต่ทว่า ค่าดูแลรถยนต์ไฟฟ้าในเรื่องของการซ่อมหลังเกิดอุบัติเหตุนั้น กลับแพงกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปทั่วไปกว่า 2 เท่าตัว รวมทั้งการรออะไหล่ก็ใช้เวลานานมากกว่าเยอะ รวมถึงศูนย์บริการที่มีน้อย
จึงเป็นสาเหตุให้ทาง Hertz เตรียมโละรถยนต์ไฟฟ้าออก รวมไปถึงบริษัทยังต้องเสียค่าใช้จ่ายจากค่าเสื่อมราคาเพิ่มอีกกว่า 245 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 8.7 พันล้านบาทด้วย
ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2021 ที่ผ่านมา Hertz ได้ประกาศเอาไว้ว่า จะเพิ่มคำสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ลงในระบบรถเช่าของตัวเองให้ได้ถึง 100,000 คัน ภายในสิ้นปี 2022 แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
โดยบริษัทฯ ได้ระบุไว้ในผลประกอบการไตรมาส 3 ในเดือนตุลาคมว่า ขณะนี้กำลังชะลอการซื้อรถ EV โดยอ้างถึงการลดลงของ MSRP ในรถ EV ซึ่งทำให้มูลค่าในตลาดรถยนต์ลดลง บริษัทกล่าวว่า ประมาณ 11% ของรถเช่าทั้งหมดในเดือนตุลาคม เป็นรถยนต์ไฟฟ้า
และยิ่งการตัดสินใจล่าสุดของ Tesla ในการลดราคายนต์ไฟฟ้าลงมา ยังกระทบต่อการตัดสินใจของ Hertz ด้วย เนื่องจากได้รับผลกระทบต่อการเสื่อมราคา Scherr กล่าวเสริม
แหล่งที่มาจาก
- CNBC