เว็บไซต์ New York Times รายงานว่า ขณะนี้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน กำลังวางแผนสร้างโรงงานในเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา ซึ่งบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกันต่างกังวลว่ามันจะเป็น "ประตูหลัง" ที่เข้ามาตัดราคาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 3 ราย

รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนจำนวนมาก กำลังเป็นที่นิยมใช้งานไปอย่างรวดเร็วในทั่วโลก โดยช่วงสามปีที่ผ่านมา การส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าของจีนเพิ่มขึ้น 851% จากการรายงานของ New York Times ในเดือนตุลาคม 2023 จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม BYD (บีวายดี) ถึงมียอดขายรถหายใจรดต้นคอ Tesla (เทสลา) ขึ้นทุกที

แต่ในสหรัฐอเมริกา ภาษีที่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ทำให้รถจีนแทบเป็นไปไม่ได้ในการทำราคาขาย แข่งขันกับรถยนต์ที่ผลิตใน USA หรือนำเข้าจากประเทศที่เป็นมิตร โดย BYD พยายามมุ่งเป้าไปที่ตลาดอเมริกาเหนืออย่าง เม็กซิโก ซึ่งเป็นตลาดที่สามารถเข้าได้ง่ายกว่ากันมาก และรุกอเมริกาได้ในอนาคต

ด้านสมาคมผู้จัดจำหน่ายยานยนต์แห่งเม็กซิโก (Mexican Association of Automotive Distributors) กล่าวว่า มีการส่งออกรถจีน (ทั้งเครื่องยนต์สันดาปและ xEV) จากเม็กซิโกไปอเมริกา ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2023 มากกว่า 62.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022

โดย เม็กซิโก อยู่ในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอเมริกา, เม็กซิโกและแคนาคา (USMCA) จึงทำให้การนำเข้านั้นแทบจะปลอดภาษี ซึ่งก็ทำให้ BYD ที่เข้าไปก่อสร้างโรงงานในเม็กซิโกแล้ว คาดเสร็จปลายปี 2024 รวมไปถึง Chery หรือ MG ต่างสนใจอยากตั้งโรงงานทางตอนใต้ชายแดนของอเมริกา-เม็กซิโก

ปัจจุบันรถ EV ที่ผลิตในจีน ต้องเสียภาษีนำเข้ากว่า 25% แต่หากย้ายไปผลิตรถ EV เม็กซิโกแล้วส่งออกไปยังอเมริกา อาจยังสามารถขายราคาใกล้เคียงจากเดิมได้ เพราะภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกเหลือเพียง 2.5% และยังมีข้อตกลงที่ว่าผู้ผลิตรถสามารถนำรถเข้าแบบปลอดภาษีได้ หาก 3 ใน 4 ของอะไหล่ตัวรถ ผลิตในประเทศที่ส่งออกด้วย

เม็กซิโกไม่ใช่ประเทศเดียวที่สหรัฐอเมริกาทำข้อตกลงการค้าเสรีที่ผู้ผลิตรถยนต์จีนต้องการใช้ประโยชน์ อีกแห่งคือเกาหลีใต้ แบรนด์ Polestar รถ EV หรูในเครือของ Geely สัญชาติจีน ซึ่งแต่เดิมผลิตรถในโรงงาน Renault ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ 

แต่ด้วยภาษีนำเข้าอเมริกากว่า 27.5% ทำให้ Polestar ซึ่งเป็นเครือเดียวกับ Volvo ทำให้ Geely วางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตในโรงงานเดิมของ Volvo ที่รัฐเซาต์ แคโรไลนา ซึ่งช่วยลดภาษีนำเข้าไปได้เช่นกัน

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บิล ฟอร์ด จูเนียร์ ประธานกรรมการบริหารของฟอร์ด มอเตอร์ เตือนว่าสหรัฐฯ ผู้ผลิตรถยนต์ "ยังไม่พร้อม" ที่จะแข่งขันกับคู่แข่งของจีนในเรื่องของรถ EV “พวกเขาพัฒนาอย่างรวดเร็วมาก และได้พัฒนาพวกเขาในวงกว้าง และตอนนี้พวกเขากำลังส่งออก” เขากล่าวกับ CNN ในเดือนมิถุนายน “พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่พวกเขาจะมาที่นี่ เราคิดว่าเมื่อถึงจุดหนึ่ง เราต้องเตรียมพร้อม และเรากำลังเตรียมพร้อม”

แหล่งที่มาจาก
- Fortune