หลังจากที่ Toyota (โตโยต้า) ได้เปิดตัว All-New Toyota Crown Sport (โตโยต้า คราวน์ สปอร์ต) รุ่นเครื่องยนต์สันดาป เจเนอเรชั่นที่ 16 อย่างเป็นทางการในตลาดญี่ปุ่นไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บัดนี้ก็ถึงเวลาเผยโฉมรุ่นเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด หรือ PHEV แล้ว
สำหรับ Crown โฉมนี้ จะเข้าร่วมกับกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ภายใต้ตราสัญลักษณ์ Crown (คราวน์) ซึ่ง Crown Sport สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบแนวสปอร์ตของรถต้นแบบที่เปิดตัวในปีที่แล้ว มีให้เลือกทั้งระบบส่งกำลังแบบไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด
โดย Toyota Crown Sport ใหม่นี้ จัดเป็น 1 รถในตระกูล Crown ที่มีตัวถังแยกย่อยให้เลือกอีก 3 แบบ ประกอบไปด้วยแบบ Sports ที่เป็นรถ SUV สไตล์สปอร์ต, แบบ Sedan รถซีดาน 4 ประตู และแบบ Estate รถ 4 ประตูสเตชั่นแวกอน ซึ่งตัวรถพัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม TNGA (GA-K) เช่นเดียวกับ Toyota Crown Crossover โดยปรับแต่งอย่างละเอียดเพื่อมอบ "ประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน"
รูปโฉมภายนอกมาในสไตล์รถ SUV สปอร์ตโฉบเฉี่ยวแบบรถแฮทช์แบ็ค ที่ภายนอกดูคล้าย Ferrari Purosangue มาพร้อมชุดไฟหน้าแบบ LED ที่เพรียวบาง ซึ่งหน้าตาหัวค้อนในลักษณะเดียวกันนี้ ยังถูกใช้กับใน Toyota Prius รุ่นล่าสุด และกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า bZ ด้วยเช่นกัน
พร้อมการตกแต่งด้วยสีดำสไตล์สปอร์ต ทั้งหลังคารถ มือจับประตู พร้อมตราสัญลักษณ์ PHEV ที่ท้ายรถ และมีช่องชาร์จไฟไว้ที่ด้านหลังฝั่งขวาของรถ ส่วนท้ายก็สปอร์ตพอๆ กันด้วยชุดไฟท้าย LED แบบแนวนอน พร้อมสปอยเลอร์หลังและ Diffuser ขนาดใหญ่ที่กันชนท้าย
ส่วนด้านข้างตัวรถ มาพร้อมขอบล้อวัสดุสีดำ โดยในรุ่น RS ที่เป็นรุ่น Top จะได้รับล้ออัลลอยสีดำขนาด 21 นิ้ว พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบ 6 ลูกสูบ รวมถึงจานเบรกพร้อมช่องระบายอากาศขนาด 20 นิ้ว ขณะที่ช่วงล่างปรับแต่งโช้คอัพใหม่ในแบบ Adaptive Variable Suspension
มิติตัวรถยาว 4,720 มม. กว้าง 1,880 มม. สูง 1,565 มม. ระยะฐานล้อ 2,770 มม. และน้ำหนักตัวรถ 2,030 กก.
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมโทนสีดำ-แดง เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มหนังแท้ พร้อมสายเข็มขัดนิรภัยทุกจุดสีแดง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน หุ้มหนังแท้เดินด้ายสีแดง พร้อมตรามงกุฎสัญลักษณ์ประจำรุ่นไว้ตรงกลาง และหัวเกียร์หุ้มหนังสีดำ
มีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว รวมถึงหน้าจอระบบ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ พร้อมระบบนำทางแบบ Cloud ที่มีระบบอัปเดตซอฟท์แวร์แบบ Over-The-Air
ยังรวมถึงฟังก์ชั่นรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่านชุดคำสั่งเริ่มต้น "Hey Toyota" และบริเวณคอนโซลกลางยังมีแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย พร้อมระบบปรับอากาศแบบ Dual-Zone และชุดเครื่องเสียงพรีเมียมจาก JBL เป็นต้น
อีกทั้งยังมีช่องปลั๊กเสียบแรงดันไฟฟ้าสูงสุด 1,500W สำหรับจ่ายกระแสไฟไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอก
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเลือกการขับขี่ ADAS แน่นอนว่ามี Toyota Safety Sense ที่มาพร้อมระบบต่างๆ หลากหลาย อาทิ ระบบ Proactive Driving Assist ช่วยคาดการณ์ความเสี่ยงตามสถานการณ์ขณะขับ, ระบบ Toyota Teammate Advanced Drive ให้คำแนะนำในขณะขับเวลารถติด, ระบบ Pre-Collision System with Pedestrian Detection เตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน, ระบบ Dynamic Rear Steering (DRS) ควบคุมการเลี้ยวที่ล้อหลังของรถ, ระบบ Dynamic Radar Cruise Control แปรผันความเร็วอัตโนมัติโดยใช้เรดาห์ตรวจจับรถคันหน้า และระบบช่วยจอด Advanced Park System เป็นต้น
ส่วนขุมพลังเป็นแบบเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่โดยคู่หน้า ให้กำลังสูงสุด 182 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าหลังให้กำลังสูงสุด 54 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร รวมกำลังทั้งระบบ 306 แรงม้า บนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four
ส่วนชุดแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออน ติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถขนาดความจุ 14.85 kWh หากวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนๆ จะให้ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 90 กม. สำหรับการชาร์จประจุไฟรองรับทั้งแบบ AC ที่ชาร์จไฟเต็มจาก 0-100% ในเวลา 5.30 ชั่วโมง รวมทั้งยังรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟ 80% ในเวลาเพียง 33 นาที
ซึ่งหากเติมน้ำมันเบนซินเต็มถัง และแบตเตอรี่ชาร์จไฟเต็มแล้ว จะให้ระยะการขับขี่ได้ไกลกว่า 1,200 กม. และ Toyota ยังกล่าวว่าอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 20.3 กม./ลิตร
สำหรับ Toyota Crown Sport จะถูกสร้างขึ้นที่โรงงาน Tsutsumi ในประเทศญี่ปุ่น ในเบื้องต้นจะมีจำหน่ายเฉพาะรุ่น Hybrid Sport RS รุ่นเดียว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7,650,000 เยน หรือประมาณ 1,846,000 บาท