Skoda Superb (สโกด้า ซูเพิร์บ) รถอีกรุ่นที่กาลครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสเข้ามาทำตลาดในไทย และในตลาดยุโรป ก็ได้กลับมาอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ ซึ่งในครั้งนี้มากับวิวัฒนาการใหม่ โดยยกระดับสไตล์ เทคโนโลยี ประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย และประโยชน์ใช้สอย พร้อมระบบส่งกำลังที่หลากหลาย รวมถึงตัวเลือกน้ำมันเบนซิน ดีเซล Mild-Hybrid และปลั๊กอินไฮบริด
โดย Skoda Superb รุ่นล่าสุดจะต่างจาก Volkswagen Passat เจเนอเรชั่นใหม่ที่เกี่ยวข้องกันบ้าง เนื่องจาก Passat จะเหลือจำหน่ายเฉพาะรุ่น Wagon ในเวลานี้ แต่ทางฝั่ง Superb ยังคงให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกรถเก๋งท้ายลาดที่ Skoda เรียกว่า Hatchback และรถแบบ Estate ภายใต้ชื่อ Combi
รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบใหม่หมด ในสไตล์เฉียบคมยิ่งขึ้น กับรูปแบบที่เราคุ้นเคย ส่วนไฮไลท์ที่โดดเด่น ได้แก่ กระจังหน้ากว้างกว่าเดิม เช่นเดียวกับช่องกันชนที่เน้นด้วยแถบโครเมียม ชุดไฟหน้าแบบ LED Matrix ที่เพรียวบางยิ่งขึ้น และไฟท้าย LED สุดทันสมัย พร้อมองค์ประกอบ "คริสตัลไลน์" เพื่อรูปลักษณ์พรีเมียมยิ่งขึ้น
Superb รุ่นใหม่นี้ยาวขึ้น 43 มม. สูงขึ้น 12 มม. และมีค่าอากาศพลศาสตร์มากกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศที่ cd = 0.24 สิ่งที่น่าสนใจ คือ ในรุ่น Hatchback มีความยาว 4,912 มม. ซึ่งมากกว่า Combi ที่ 4,902 มม. โดยทั้ง 2 เวอร์ชั่นใช้ระยะฐานล้อ 2,841 มม. เท่ากันเหมือนรุ่นก่อน
เมื่อเข้าไปภายในห้องโดยสาร นักออกแบบของ Skoda ได้ปรับปรุงเทคโนโลยี และความรู้สึกด้านคุณภาพของรถรุ่นเรือธงนี้ ด้วยหน้าจอแสดงข้อมูล Virtual Cockpit ขนาด 10 นิ้ว รวมถึงหน้าจอระบบ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 13 นิ้ว และจอแสดงผลบนกระจกหน้า
จุดเด่นอีกอย่าง คือ ปุ่มกดแบบหมุนใหม่ "Smart Dials" พร้อมจอแสดงผลขนาด 1.25 นิ้ว ที่ให้ความรู้สึกใช้งานง่ายกว่าระบบสัมผัส แป้นหมุนด้านนอกจะควบคุมอุณหภูมิและการทำความร้อน/ระบายอากาศของเบาะนั่ง
ในขณะที่แป้นหมุนตรงกลางสามารถปรับแต่งได้และสามารถใช้เพื่อควบคุมระดับเสียง ความเร็วแอร์ ทิศทางลม โหมดปรับอากาศอัจฉริยะ โหมดการขับขี่และแม้แต่การซูมแผนที่สำหรับระบบนำทาง
ในแง่ของพื้นที่ Skoda อ้างว่าพื้นที่เหนือหัวและช่องเก็บสัมภาระ "เพิ่มขึ้นอย่างมาก" เมื่อเทียบกับ Superb รุ่นก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจุสัมภาระท้ายรถอยู่ที่ 645 ลิตร ในรุ่น Hatchback และ 690 ลิตร ในรุ่น Combi
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มความยั่งยืน สิ่งทอภายในทำจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100% ต่างจากผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นตรงที่ Skoda ไม่ได้ปราศจากหนัง แต่ตัวเลือกเบาะหนังตอนนี้มีกระบวนการฟอกหนังที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้สารตกค้างจากกระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟหรือน้ำเสียจากกระบวนการผลิตมะกอก ตัวเลือกการตกแต่งแบ่งออกเป็นธีม Loft, Lounge หรือ ecoSuite โดยมีสีภายในเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล
สำหรับการเปิดตัว Skoda Superb เจเนอเรชั่นที่ 4 ในตลาดยุโรปจะเปิดตัวช่วงไตรมาสแรกปี 2024 นี้ พร้อมประกาศราคาในภายหลัง และตัวรถจะผลิตในเมือง Bratislava ประเทศสโลวาเกีย เช่นเดียวกับ Volkswagen Passat Variant
แหล่งที่มาจาก
- Carscoops