หลังจากที่ Toyota USA (โตโยต้า) ได้หวนกลับมานำ Toyota Crown (โตโยต้า คราวน์) เข้าไปจำหน่ายสหรัฐอเมริกาอีกครั้งในรอบหลายทศวรรษ หลังจากที่เคยจำหน่ายในช่วงปี 1958 - 1973 โดยล่าสุดได้เปิดตัว All-New Toyota Crown เวอร์ชั่นปี 2024 ในรูปแบบซีดาน Crossover ไปเมื่อไม่นานมานี้
แต่ล่าสุดของอีกล่าสุด นั่นคือการเปิดตัว All-New Toyota Crown Signia กับการเป็นตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น โดย Toyota หวังจะให้เข้ามาแทนที่ Toyota Venza ที่เลิกผลิตไป
โดย Toyota Crown Signia ได้พัฒนาขึ้นร่วมกันกับ Toyota Crown Estate เวอร์ชั่นที่ขายในญี่ปุ่น ซึ่งชื่อรุ่น "Signia" มาจากคำว่า Insignia ที่แปลว่า เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ตัวรถสร้างขึ้นบนแพลทฟอร์ม TNGA-L เหมือนใน Crown รุ่นปกติ รูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าแบบ Hammerhead Design หรือหัวฆ้อน มาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบรังผึ้ง ชุดไฟ Daytime Running Light แบบ LED รูปตัว C ในสไตล์เดียวกับรถ Toyota รุ่นอื่นๆ ส่วนด้านข้างใช้ซุ้มล้อ และกาบประตูข้างสีดำ
พร้อมตกแต่งคิ้วโครเมียมที่กาบบันได และขอบหน้าต่าง มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ในรุ่น XLE และ 20 นิ้ว ในรุ่น Limited ขณะที่ชุดไฟท้ายเป็นแบบ LED แนวยาว และฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบ Kick Censor
มิติตัวรถยาว 4,930 มม. กว้าง 1,880 มม. สูง 1,620 มม. และระยะฐานล้อ 2,850 มม.
ห้องโดยสารภายในแบบ 5 ที่นั่ง ออกแบบแผงแดชบอร์ด มากับหน้าจอคู่ที่ต่อเชื่อมเป็นจอเดียวกัน โดยแบ่งออกเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ไร้สาย และ Android Auto พร้อมระบบอัปเกรดซอฟท์แวร์แบบ Over-The-Air พร้อมฟังก์ชัน Drive Connect ที่สามารถสั่งงานได้เพียงพูดว่า "Hey Toyota"
มาพร้อมติดตั้งช่องเชื่อมต่อ USB-C หน้า-หลัง มีแท่นชาร์จไฟไร้สายแบบแนวตั้ง และหลังคาแบบ Panoramic Moonroof
ส่วนเบาะนั่งมีทั้งแบบหุ้มหนังคุณภาพสูง และเบาะผ้าสลับหนังสังเคราะห์ SofTex โดยเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 พร้อมให้พื้นที่เก็บสัมภาระที่ยาวถึง 1,981 มม. อีกทั้งชุดเครื่องเสียงจาก JBL กับชุดลำโพงที่มีให้ 6, 10 และ 11 จุด (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย) และระบบปรับอากาศแยกส่วน 3 จุด
ระบบความปลอดภัยใช้ Toyota Safety Sense 3.0 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบเตือนการออกนอกเลน, ระบบตรวจสอบจุดบอด, ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, กล้องมองภาพรอบทิศทาง หรือระบบช่วยเปลี่ยนเลน เป็นต้น
ส่วนขุมพลังเป็นแบบไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 243 แรงม้า บนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ On-Demand AWD ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ Normal, Eco และ Sport
ทั้งนี้ Toyota ได้ระบุว่า Toyota Crown Signia มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวม 6.5 ลิตร/100 กม. หรือประมาณ 15.3 กม./ลิตร และมีความสามารถในการลากจูงรับน้ำหนักได้มากถึง 1,225 กก.
สีตัวถังภายนอกมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาว Oxygen White, สีทอง Bronze Age, สีฟ้า Storm Cloud, สีแดง Finish Line Red, และสีดำ Black
สำหรับ Toyota Crown Signia จะประกาศราคาในสหรัฐอเมริกาช่วงต้นปี 2024 นี้