ถ้าใครที่เคยใช้รถ Peugeot Partner ที่บริษัท ยนตรกิจ เคยนำเข้ามาขายเมื่อเกือบๆ 20 ปีก่อน คงจะจดจำกับความรู้สึกของรถในสไตล์ทรงกล่องอเนกประสงค์ ที่นิยมในยุโรปแบบนี้ได้ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในเมือง หรือจะเดินทางไปท่องเที่ยวทั้งครอบครัว รวมไปถึงความสามารถด้านการบรรทุกสัมภาระต่างๆ ได้
แต่ในวันนี้ Peugeot (เปอโยต์) เขากลับมาในรูปลักษณ์สดใหม่ในชื่อ Peugeot E-Rifter กับรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV ในรูปแบบ LCV ที่ทันสมัยพร้อมกับรักษาสไตล์ของรถ Crossover จากรุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2018
มาพร้อมชุดไฟหน้าใหม่มีไฟ LED 3 ดวง แบบกรงเล็บเสือ กระจังหน้าแบบปิดลายใหม่ พร้อมชุดกันชนหน้าและช่องรับลมดีไซน์ใหม่ พร้อมแผ่นกันกระแทกแบบอลูมิเนียม มีแร็คหลังคา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ 2 สีใหม่ ได้แก่ Sirkka Green และ Kiama Blue
ตัวรถมีให้เลือกระหว่างรุ่น Standard ความยาว 4.4 เมตร และรุ่น Long ที่เพิ่มความยาวตัวรถขึ้นเป็น 4.7 เมตร ซึ่งทั้ง 2 แบบ มีให้เลือกทั้งเบาะ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง รวมไปถึงประตูหลังแบบสไลด์ทั้ง 2 ด้าน และฝาท้ายขนาดใหญ่ ที่เปิดกระจกได้เพื่อความสะดวกในการนำสัมภาระออกได้ง่ายขึ้น
แม้ว่าทาง Peugeot จะไม่ได้เผยภาพห้องโดยสารภายใน แต่ได้ระบุว่ามาพร้อมกับระบบ i-Cockpit ใหม่ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 10 นิ้ว พร้อมกับหน้าจอ Infotainment ขนาด 10 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมทั้งออกแบบพวงมาลัยหุ้มหนังอุ่นร้อนได้ใหม่ ในขนาดกะทัดรัดเหมือนเดิม
นอกจากนี้ ยังใช้ผ้าสีเทาอ่อนใหม่ในการหุ้มเบาะ อีกทั้งยังมีช่องชาร์จ USB ถึง 3 ช่อง และมีฟังก์ชั่นระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS ถึง 18 อย่าง ในขณะที่ระบบช่วยจอดรถได้รับการปรับปรุงด้วยเซ็นเซอร์ 12 ตัว และกล้องมองหลังความละเอียดสูง
อีกทั้งยังมาพร้อมพื้นที่เก็บของด้านหลังความจุ 775 ลิตร ในรุ่นความยาวปกติแบบเบาะ 5 ที่นั่ง และพื้นที่เก็บสัมภาระมากถึง 4,000 ลิตร ในรุ่นตัวรถยาวที่พับเบาะลงหมด รวมทั้งที่เก็บของมุมต่างๆ ในห้องโดยสารที่มีความจุรวมถึง 186 ลิตรในบางรุ่น
ส่วนขุมพลังไฟฟ้ายังคงเดิม คือมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 134 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า โดยทำงานร่วมกับชุดแบตเตอรี่ขนาด 50 kWh ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 11.2 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 135 กม./ชม.
แต่อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ก็ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงระบบเบรกแบบจ่ายพลังงานใหม่ และการเพิ่มปั๊มความร้อน ส่งผลให้ระยะการขับขี่วิ่งไกลขึ้นเป็น 320 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) เมื่อเทียบกับ 280 กม. ของรุ่นก่อน หากชาร์จเต็มจะใช้เวลา 5 ชั่วโมง ใน Wallbox ขนาด 11 kW และชุดแบตเตอรี่ยังรองรับการชาร์จเร็ว DC ขนาด 100 kW
สำหรับ Peugeot E-Rifter จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า