RAM (แรม) ผู้ผลิตรถกระบะชื่อดังจากอเมริกา (ซึ่งเดิมคือรถกระบะ Dodge RAM ต่อมา Chrysler ได้ตัดสินใจแยกชื่อรุ่นออกมาในปี 2010 ทำเป็นแบรนด์สำหรับรถกระบะ และรถเพื่อการพาณิชย์) ได้เปิดตัว RAM 1500 Ramcharger รถกระบะไฟฟ้า ที่ยังคงมีเครื่องยนต์สันดาปด้วยเชื้อเพลิงทำงานร่วม ในการปั่นกระแสไฟฟ้าให้มอเตอร์ไฟฟ้า
สำหรับรูปโฉมภายนอก RAM ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก เพียงระบุว่ากระบะรุ่นนี้จะมีสีตัวรถให้เลือกเพิ่มเติม กระจังหน้าแบบปิดบางส่วนพร้อมตราสัญลักษณ์ RAM ที่มีไฟกระพริบส่องสว่างเพื่อแสดงสถานะการชาร์จไฟเมื่อเสียบปลั๊ก และฝากระบะท้ายแบบไฟฟ้า
โดยการออกแบบด้านหน้าของ 1500 Ramcharger มีการผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ จากรุ่น 1500 และ 1500 REV ซึ่งส่วนหน้าส่วนใหญ่จะคล้ายกับในรุ่น 1500 ในขณะที่ส่วนท้ายจะคล้ายกับรุ่น 1500 REV
ห้องโดยสารภายใน มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอระบบ Infotainment ขนาด 12-14.5 นิ้ว
นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งกระจกมองหลังแบบดิจิตอล พร้อมระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียมจาก Klipsch พร้อมลำโพง 23 ตำแหน่ง และจอแสดงผลสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าขนาด 10.25 นิ้ว
เช่นเดียวกับรุ่นมาตรฐาน 1500 Ramcharger จะตกแต่งภายในด้วย Tungsten อันหรูหรา บวกกับใช้สีทูโทนพร้อมผ้าบุหลังคาแบบหนังกลับ เบาะนั่งมีลวดลายเพชร และคันเกียร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคริสตัล
ส่วนไฮไลท์อื่นๆ ได้แก่ แป้นเหยียบโลหะ ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายคู่ เบาะหนังบุนวมพร้อมระบบอุ่นร้อน เป่าลม และนวด รวมถึงปรับไฟฟ้าได้ 24 ทิศทาง และพนักพิงศีรษะปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
ความพิเศษของ 1500 Ramcharger คือเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.6 ลิตร ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่ง RAM กล่าวว่ามันมีฟังก์ชั่นหลายอย่าง เนื่องจากเครื่องยนต์สามารถใช้เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ หรือทำงานร่วมกับแบตเตอรี่เพื่อ "ให้กำลังสูงสุดแก่ล้อ" และสิ่งสำคัญที่ต้องทราบ คือ ไม่มีการเชื่อมต่อทางกลระหว่างเครื่องยนต์และล้อ เนื่องจากใช้เป็นเพียงการจ่ายไฟให้กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
และยังมาพร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาด 92 kWh ซึ่งส่งกำลังให้กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลังสูงสุด 672 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 833 นิวตัน-เมตร
ซึ่งหมายความว่ารุ่นนี้มีแรงม้ามากกว่า RAM 1500 REV แต่มีแรงบิดน้อยกว่าเล็กน้อย มอบสมรรถนะอย่างน่าประทับใจ ด้วยอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับ 1500 REV รุ่นพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
ด้วยระบบ Range-Extended ทำให้ 1500 Ramcharger วิ่งได้ไกลถึง 1,110 กม. และไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางขณะลากจูง เนื่องจากมีปั๊มน้ำมันอยู่ใกล้ๆ เสมอ ที่สำคัญยังให้กำลังลากได้มากถึง 6,350 กก. และมีน้ำหนักบรรทุกดีที่สุดในกระบะระดับเดียวกันที่ 1,191 กก.
RAM กล่าวว่ารถกระบะคันนี้จะมอบ "การขับขี่และการควบคุมรถในระดับชั้นนำ" ด้วยระบบช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงค์ และระบบช่วงล่างแบบถุงลมทั้ง 4 ล้อ ที่มีโหมดที่แตกต่างกัน 5 โหมด ซึ่งสามารถลดความสูงเพื่อช่วยให้การขึ้น-ลงรถ รวมถึงการยกสูงเพื่อให้มีระยะห่างจากถนนที่ดีขึ้น
ส่วนไฮไลท์อื่นๆ ได้แก่ การชาร์จแบบ 2 ทิศทาง และระบบไฟฟ้าในตัว สามารถจ่ายพลังงานได้มากถึง 7.2 kW ที่ประตูท้าย และยังระบุว่ากระบะคันนี้สามารถชาร์จเร็วแบบ DC ขนาด 145 kW ซึ่งเพิ่มระยะทางได้ประมาณ 80 กม. ในเวลาชาร์จเพียง 10 นาที
นอกจากนี้ 1500 Ramcharger ยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่หลายประเภท รวมถึงระบบจอดอัตโนมัติและลูกค้ายังสามารถเลือกรับ Hands-Free Highway Assist ซึ่งเป็นระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่ช่วยให้สามารถใช้งานแบบแฮนด์ฟรีได้
โดย RAM 1500 Ramcharger จะเปิดตัวพร้อมราคาอีกครั้งในเร็วๆ นี้