Ferrari (เฟอร์รารี่) ได้เปิดเผยข้อมูลที่ค่อนข้างน่าเซอร์ไพรส์ไปยังเอกสารที่ส่งให้นักลงทุน เพื่อแจ้งให้ทราบถึงผลการดําเนินงานของค่าย Ferrari ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - กันยายน
ซึ่งในช่วงเวลานี้มีการจัดส่งรถยนต์อยู่ที่ 3,188 คัน เพิ่มขึ้น 271 คัน เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 ที่ผ่านมา โดยจากปริมาณรวมทั้งหมด 51.3% กลับเป็นรถยนต์ไฮบริด และมีเพียง 48.7% เท่านั้น ที่เป็นรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือ ICE
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Ferrari ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 ประกอบด้วยรถ ICE จำนวน 9 รุ่น และรถไฮบริด 4 รุ่น โดยความต้องการในไตรมาส 3 นี้ สำหรับรถไฮบริดนั้นสูงกว่า โดยได้รับแรงหนุนมาจากรุ่น 296 และ SF90 ซึ่งทั้ง 2 รุ่น มีระบบส่งกำลังแบบปลั๊กอินไฮบริด และเป็นรถ PHEV รุ่นแรกๆ ของบริษัท
คงต้องรอดูกันต่อไปว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่หรือไม่ แต่ต้องจำว่า Purosangue ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 อันทรงพลัง ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น นอกจากนี้ Ferrari ยังมีแผนนำเสนอรถรุ่นที่จะมาแทนซูเปอร์คาร์ตัวแรง อย่าง Ferrari 812 อีกด้วยในอนาคต
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอนาคตของ Ferrari จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน ซึ่ง Ferrerai เองนั้น จะออกรถ Supercar ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของแบรนด์ภายในช่วงปี 2025 นี้
ภายในสิ้นทศวรรษนี้ Ferrari คาดการณ์ว่า 40% ของรถยนต์ที่ส่งมอบให้กับลูกค้า จะไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน คาดว่าอีก 40% จะเป็นลูกผสม เหลือเพียง 20% เท่านั้นที่จะเป็นรถ Supercar เครื่องยนต์สันดาปด้วยเชื้อเพลิง
แหล่งที่มาจาก
- Motor1