Nissan Motor (นิสสัน มอเตอร์) เปิดตัว Nissan Hyper Force (นิสสัน ไฮเปอร์ ฟอร์ซ) ที่งาน Japan Mobility Show 2023 ซึ่งเป็นรถต้นแบบคันสุดท้ายของซีรีส์นวัตกรรมรถยนต์แนวคิด "Hyper" (ไฮเปอร์) ทั้ง 5 คัน สะท้อนวิสัยทัศน์นิสสัน ในการมองเห็นความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในอนาคตที่หลากหลาย ยกระดับชีวิตผู้คนด้วยนวัตกรรม และความตื่นเต้นเร้าใจ
นิสสัน "กล้าที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า" ได้พัฒนานวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้ ก้าวไปไกลกว่าการขับเคลื่อนเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนมากขึ้น รถยนต์ไฟฟ้าเป็นสัญลักษณ์แห่งอนาคตในการสร้างโลกที่สะอาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น สำหรับทุกคน โดยไม่ละทิ้งความหลงใหล และความฝัน ด้วยพลังแห่งนวัตกรรม
Nissan Hyper Force ออกแบบมาเพื่อผู้ชื่นชอบการแข่งรถและนักเล่นเกมที่กระหายความตื่นเต้นจากอะดรีนาลีนในสนามแข่ง แต่ยังคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ซูเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง มอบความพึงพอใจในการขับขี่ขั้นสูงสุด ขณะเดียวกันก็มอบประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมในระดับสูงและความสะดวกสบายในชีวิตประจําวัน ตัวถังน้ำหนักเบาจากคาร์บอนที่มีความแข็งแรงสูง ช่วยให้เข้าโค้งได้ดีขึ้นและควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยมในสนามแข่งและถนนคดเคี้ยว
หัวใจหลักของรถยนต์รุ่นนี้คือระบบส่งกำลังไฟฟ้าทั้งหมดที่ให้พละกำลังสูง พร้อมด้วยแบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่มีความสมดุลของน้ำหนักอย่างเหมาะสม ผลิตพลังงานได้สูงถึง 1,000 กิโลวัตต์ พร้อมอัตราเร่งแม่นยำและรวดเร็ว ดาวน์ฟอร์ซอันทรงพลัง ระบบควบคุมการขับเคลื่อน e-4ORCE ที่ควบคุมล้อทั้งสี่ได้อย่างแม่นยำ
การออกแบบภายนอกมีสัดส่วนที่กว้างและลงตัว เป็นการผสมผสานระหว่างส่วนโค้งเพรียวที่เข้ากันอย่างลงตัวกับรูปทรงเรขาคณิตที่โดดเด่น สะท้อนถึงสมรรถนะที่โดดเด่นของเครื่องยนต์ที่อยู่ด้านล่าง องค์ประกอบต่างๆ ที่รวมอยู่ในการออกแบบ อาทิ ไฟหน้าและไฟท้าย ถือเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์สมรรถนะสูงของ Nissan
รูปโฉมภายนอกตอบสนองสมรรถนะสูงจากหลักอากาศพลศาสตร์ซึ่งพัฒนาร่วมกับทีมแข่ง NISMO เพื่อสร้างแรงกด Downforce อันทรงพลัง โครงสร้างหลักอากาศพลศาสตร์สองชั้นใต้ฝากระโปรงหน้าให้ทั้งแรงกดที่แข็งแกร่ง ประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูง ในขณะเดียวกัน ดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังแบบสองระดับ* จะควบคุมการไหลเวียนของอากาศได้อย่างเหมาะสม
ชิ้นส่วนคานาร์ดด้านหน้า บังโคลนหน้า และปลายทั้งสองข้างของปีกหลัง มอบประสิทธิภาพเชิงอากาศพลศาสตร์ยอดเยี่ยม ในขณะที่ ชิ้นส่วนแอคทูเอเตอร์พลาสม่าที่พัฒนาขึ้นใหม่จะควบคุมการไหลของอากาศเพื่อเพิ่มการยึดเกาะสูงสุด และลดการยกตัวของล้อด้านในระหว่างการเข้าโค้ง ล้อคาร์บอนลายหินอ่อนน้ำหนักเบา เสริมอากาศพลศาสตร์และการระบายความร้อนจากเบรก
รถยนต์ต้นแบบนี้มีโหมดการขับขี่สองโหมด ได้แก่ “R” (Racing) และ “GT” (Grand Touring) ซึ่งการแสดงผลผ่านกราฟิกที่จะเปลี่ยนสีและการแสดงผลตามโหมดที่เลือก ออกแบบให้แสดงข้อมูลจำเป็นที่สุดสำหรับผู้ขับขี่ทันที กราฟิกเหล่านี้มาจากความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตเกมขับรถชั้นนำ อย่าง Polyphony Digital Inc. (โพลิโฟนี ดิจิทัล)
ในโหมด R ห้องโดยสารจะปรับแสงบรรยากาศเป็นสีแดงและสร้างพื้นขับขี่ที่ใช้งานง่าย ซึ่งโฟกัสไปที่คนขับเพื่อทำให้เกิดสมาธิแผงบนแผงหน้าปัดขยายออกไปบริเวณที่นั่งเพื่อเพิ่มความรู้สึกของการขับขี่ ในขณะเดียวกัน หน้าจอแสดงผลสี่จอรอบตัวและรอบพวงมาลัยจะแสดงลมยาง และอุณหภูมิ ความดันอากาศ อุณหภูมิของจานเบรก การกระจายกำลัง และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการแข่งรถ
ในโหมด GT ห้องโดยสารปรับแสงสว่างเป็นสีน้ำเงินและหน้าจอที่อยู่รอบพวงมาลัยจะเคลื่อนออกไปและรวมเข้าด้วยกันมอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำด้วยอินเทอร์เฟซในระบบ Infotainment ที่เรียบง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงการตั้งค่าเครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง ระบบกันสะเทือน และระบบกันการโคลง เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบาย ระบบกันสะเทือนและเหล็กกันโคลงได้ออกแบบให้เป็นรายแรกของโลกที่สามารถสั่งการบนหน้าจอได้อย่างง่ายดายในขณะขับขี่*
เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าทำจากคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา และมีความแข็งแกร่งสูง ช่วยให้ขับขี่ทางไกลได้สบาย พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบสี่จุด
ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในสมการของรถยนต์ต้นแบบคันนี้ ด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติขั้นสูง พร้อมเทคโนโลยีระบบการหลบหลีกการชนทำงานผ่าน Hyper LIDAR - Light detection and ranging และเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่ปรับแต่งมาสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต
เพื่อเป็นการยกระดับความน่าสนใจของ Nissan Hyper Force คือประสบการณ์ เทคโนโลยีของโลกเสมือนผสมผสานกับโลกแห่งความจริง (Augmented Reality) และความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality) ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยให้การขับขี่ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริงเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อรถหยุด ผู้ขับขี่สามารถใช้หมวกกันน็อกพิเศษที่มีกระบังหน้าสำหรับ VR ช่วยให้เข้าสู่ประสบการณ์การขับขี่แบบเกม พร้อมด้วยโหมดที่ช่วยให้สามารถแข่งกับเวลาหรือนักแข่งออนไลน์ได้
การใช้กระบังหน้าแบบโครงกระดูกสำหรับ AR ช่วยให้นักแข่งสามารถต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ในโลกดิจิทัล ซึ่งอาจเป็นเพื่อน หรือแม้แต่นักแข่งมืออาชีพบนสนามแข่งได้
นิสสัน ไฮเปอร์ ฟอร์ซ ถือเป็นการเปลี่ยนมุมมองรวมถึงกระบวนทัศน์ในกลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูง ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สมรรถนะที่ได้จากพลังงานไฟฟ้า และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ล้ำสมัย รถยนต์ต้นแบบคันนี้จึงเป็นวิสัยทัศน์ของนิสสันสำหรับซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงรุ่นต่อไป
* Nissan Hyper Force เป็นผลจากความร่วมมือกับ Polyphony Digital Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Sony Interactive Entertainment และผู้ผลิตวิดีโอเกม Gran Turismo โดยใช้จุดแข็งที่โดดเด่นของแต่ละบริษัท
* มิวสิกวิดีโอที่ถ่ายทอดสดบนช่อง YouTube ของ นิสสัน นำเสนอเพลงจากศิลปิน 6 ท่านที่ทำงานในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของการผสมผสานระหว่างดนตรีและรถยนต์ต้นแบบ