Lexus (เลกซัส) เปิดตัวรถ MPV แบบ Luxury Mini Van ระดับหรู "The All-New Lexus LM" ยนตรกรรมไฟฟ้า "LEXUS Electrified" รุ่นล่าสุด ภายใต้ "LEXUS Chapter of Design Concept" หลังจากความสำเร็จของรุ่น All-New NX, RX และรถ BEV เต็มรูปแบบ รุ่น RZ
โดยแบรนด์ Lexus ได้เปิดตัวในไทยครั้งแรกเมื่อปี 2536 และปีนี้ครบรอบ 30 ปีของเลกซัส โดย All-New LEXUS LM จะมาสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของเลกซัสในไทย รถรุ่นนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และเป็นรถรุ่นหลักที่มียอดขายลำดับต้นๆ ในกลุ่มรถ MPV ระดับหรู
โดย LM ย่อมาจาก “Luxury Mover” สื่อถึงความตั้งใจในการพัฒนารถรุ่นนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการใช้รถ MPV แบบมีคนขับ ด้วยการออกแบบของเลกซัสเจเนอเรชั่นใหม่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งความคล่องแคล่ว ความหรูหรา และความสง่างาม
พร้อมที่จะพาทุกท่านไปสู่อีกขั้นของ "Omotenashi" สร้างสภาพแวดล้อมอันผ่อนคลาย ราวกับว่าอยู่ภายในห้องสวีทของโรงแรมสุดหรู หรือห้องทำงานเคลื่อนที่
นับจากการเปิดตัว Lexus LM ในไทยครั้งแรกเมื่อปี 2563 เป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ของรถ Luxury Minivan ไปอีกขั้น ทำให้ Lexus LM กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา ด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส ตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้บริหารในไทย
The All-New Lexus LM: The 7 Magnificence
1. "Sophisticated Exterior" การออกแบบภายนอกใหม่ทั้งหมด
สง่างาม และทันสมัย ด้วยการออกแบบภายนอก “Dignified Elegancy” เริ่มจากกระจังหน้ารูปแบบ "Lexus’s Resolute Look" ที่ออกแบบให้เป็น "Unified Spindle" พร้อมไฟหน้าเฉียบคม ทันสมัย โปรไฟล์ข้างตัวรถยาวขึ้น สะท้อนการออกแบบที่เน้นความสบายของห้องโดยสารตอนหลังอันดับแรก โดดเด่นด้วยไฟท้าย L-Signature Light Bar ขนาดใหญ่ เสริมรูปลักษณ์ทรงพลัง
2. "Grand Interior" ห้องโดยสารภายในที่หรูหรา
หรูหรา และประณีต ด้วยการยกเอาห้องนั่งเล่น และห้องทำงานมาไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกสงบ สะดวกสบายสูงสุด ทั้งในรุ่น 4 และ 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับทุกๆ ตำแหน่งของเบาะนั่ง รวมถึงตำแหน่งผู้ขับตามหลักแนวคิด TAZUNA ให้ตำแหน่งของผู้ขับขี่อยู่บริเวณกึ่งกลาง วางทุกอย่างให้โอบล้อมผู้ขับ ใช้งานได้สะดวกไม่ต้องละสายตาจากถนน
3. "First Class Cabin Lounge" ห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส
ภายในห้องโดยสารตอนหลังออกแบบจากแรงบันดาลใจที่นั่งเครื่องบินโดยสารชั้น First Class พร้อมผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว กระจกปรับความเข้มแสงอัจฉริยะ หน้าจอขนาดใหญ่ 48 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงชั้นเลิศ “Mark Levinson Reference 3D Surround Sound System” ช่องเก็บของ ช่องแช่เครื่องดื่ม จุดชาร์จไฟ
เบาะนั่งที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล พร้อมระบบควบคุมความร้อน / เย็นของเบาะนั่ง ปรับเอนนอนได้ในองศาที่มากขึ้นกว่าเดิม โอบล้อมสรีระ ลดแรงสั่นสะเทือนที่มาจากภายนอกรถ พร้อม “Relaxation Function” ระบบนวดที่ผ่อนคลาย สะดวกสบายสูงสุด
4. "Personalized Customization" ฟังก์ชันปรับแต่งเฉพาะบุคคล
ความหรูหราที่ตอบสนองทุกรสนิยมส่วนบุคคล พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ Personalized Screen แยกการนำเสนอเนื้อหาแต่ละบุคคล พร้อมระบบเครื่องเสียงแบบ “2-Zone Audio System” ซึ่งจะแยกระบบเสียงด้านหน้าคนขับ และด้านหลัง ทำให้สามารถรับฟังคอนเทนท์ที่แตกต่างกันได้โดยไม่มีเสียงรบกวนซึ่งกันและกัน การควบคุมฟังก์ชันเฉพาะบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Moon roof หน้าจอ ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน สามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสจาก “Overhead Control” และ “Removable Touchscreen Rear Controller”
5. "Comfort and Confidence" สุนทรียภาพ และความมั่นใจในการเดินทาง
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ระบบไฮบริดใหม่ 250 แรงม้า ผสานกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนสีล้อแบบ E FOUR ทำให้ได้พละกำลังที่ดีขึ้น เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ พร้อมความประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม โครงสร้างตัวถังพัฒนาขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรมโครงสร้าง GA-K ที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ให้การตอบสนองที่เฉียบคม และการควบคุมที่ดีเยี่ยม
พร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ “Rear Comfort Mode” ที่ให้ความสบายนุ่มนวลอย่างแตกต่าง ด้วยระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกของโลก “Frequency-sensitivity Piston Valve” ทำงานคู่กับระบบ “Adaptive Variable Suspension” (AVS) และระบบควบคุมการทรงตัวขณะเบรก “Braking Posture Control” ช่วยป้องกันทั้งการโยนตัวขณะเบรก และป้องกันการโคลงตัวในขณะเข้าโค้ง ลดอาการเวียนศรีษะ ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายสูงสุด
6. "World-Class Safety" ความปลอดภัยขั้นสูง
สัมผัสความปลอดภัยระดับโลกกับระบบ “Lexus Safety System Plus” พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ในทุกเกรด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบตรวจจับระยะด้วยเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และกล้องที่กว้างขึ้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร และผู้ร่วมทาง
7. "Ultimate Omotenashi" ประสบการณ์ "Omotenashi"
สัมผัสจิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่นตามปรัชญา “Omotenashi” ด้วยระบบ “Lexus Climate Concierge” ที่จะตรวจจับอุณหภูมิของผู้โดยสารแต่ละท่านเพื่อปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารโซนนั้นๆ ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีโหมดปรับบรรยากาศห้องโดยสารด้านหลัง โดยปรับระบบไฟในห้องโดยสารรวมถึงฟังก์ชันบังแสงจากภายนอกตามอารมณ์ของผู้โดยสารได้ถึง 5 โหมด คือ Dream, Relax, Focus, Energize และ My Original
ทั้งหมดนี้ ทำให้ The All-new Lexus LM ใหม่ เป็นรถ Flagship จากเลกซัส ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นที่มาของ Tagline เลกซัส LM ใหม่ “Own A World Apart”
All-New LEXUS LM ใหม่ มีให้เลือก 2 รูปแบบทั้งรุ่น 4 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง พร้อมสีภายนอก และสีภายในที่เป็นเอกลักษณ์
สีภายนอก 4 สี อาทิ ได้แก่ Graphite Glass Flake, สีขาว Sonic Quartz, สีแดง Sonic Agate และสีเงิน Sonic Titanium
สีภายใน 2 สี ได้แก่ สีขาว Solis White with Copper, สีดำ Black with Dark Grey Accents
วัสดุตกแต่งลายไม้ ลายไม้ตกแต่งบริเวณแผงประตูลาย "Yabane" และลายไม้ตกแต่งบริเวณพวงมาลัยลาย "Bengala"
ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
- Lexus LM 350h Executive 7-Seater ราคา 6,290,000 บาท
- Lexus LM 350h Executive 4-Seater ราคา 7,590,000 บาท
มั่นใจสูงสุดให้กับผู้ครอบครอง เลกซัส LM ใหม่ทุกคันผ่านผู้แทนจำหน่ายเลกซัส อย่างเป็นทางการ รับประกันคุณภาพ 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง อุ่นใจ มั่นใจกับศูนย์บริการเลกซัส และ Lexus Service Corner พร้อมบริการ Home Visit Mobility Service ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ