รวมยอดขายรถใหม่ในไทย เดือนกรกฎาคม 2566
รวมยอดขายรถใหม่ในไทย เดือนกรกฎาคม 2566

สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฏาคม 2566 ด้วยยอดขาย 58,419 คันลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับตลาดรถยนต์นั่งเดินหน้าต่อเนื่องด้วยยอดขาย 25,511 คันเติบโต 17.3% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องด้วยยอดขาย 35,908 คัน ลดลง 19.9% ในส่วนของรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ ชะลอตัวเช่นกันด้วยยอดขาย 24,982 คัน ลดลงถึง 26.6%

รวมยอดขายรถใหม่ในไทย เดือนกรกฎาคม 2566

ตลาดรถยนต์เดือนกรกฏาคม 2566 มีปริมาณการขายที่ 58,419 คัน ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตลาดรถยนต์นั่งสามารถทำยอดขาย 22,511 คัน เติบโตต่อเนื่องที่ 17.3% โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายในเซกเมนท์รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ 16,308 คัน เติบโต 18.1% 

แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้ยอดขายรวมในเดือนนี้กลับมาเป็นบวก เนื่องจากตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 19.9% ด้วยยอดขาย 35,908 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวถึง 26.6% ด้วยยอดขาย 24,982 คัน จากการชะลอการสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ และภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธุรกิจขนส่ง โดยมีปัจจัยลบที่สำคัญอย่างยิ่งคือความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ที่มีความกังวลต่อหนี้เสียอันเป็นผลต่อเนื่องที่เกิดจากสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา

​​ตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคม มีความหวังที่จะฟื้นตัวขึ้น จากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตวิทยาการบริโภคในการใช้เงินเพื่อจับจ่ายใช้สอย ก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน 

โดยมีปัจจัยเสริมที่สำคัญได้แก่ แคมเปญการตลาดในช่วงงาน Big MOTOR SALE 2023 ระหว่าง 25 สิงหาคม - 3 กันยายน 2566 นอกจากช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ภายในงาน ยังขยายข้อเสนอพิเศษไปยังโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ และนับเป็นโอกาสดีที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น 

อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยลบที่สำคัญ ได้แก่ ความผันผวนทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลต่อภาวะหนี้สินครัวเรือน ตลอดจนความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ต่อการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

รวมยอดขายรถใหม่ในไทย เดือนกรกฎาคม 2566

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกรกฎาคม 2566

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 58,419 คัน ลดลง 8.8%

​อันดับที่ 1 โตโยต้า​ 20,421 คัน ​เพิ่มขึ้น ​0.7%​ ส่วนแบ่งตลาด ​35.0%

อันดับที่ 2 อีซูซุ​ ​11,735 คัน ​ลดลง ​27.9%​ ส่วนแบ่งตลาด ​20.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า ​7,551 คัน​ เพิ่มขึ้น​ 4.1%​ ส่วนแบ่งตลาด ​12.9%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,511คัน เพิ่มขึ้น 17.3%                                 

อันดับที่ 1 โตโยต้า ​8,048 คัน​ เพิ่มขึ้น​ 57.9%​ ส่วนแบ่งตลาด ​35.8%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า ​4,922 คัน ​เพิ่มขึ้น​ 6.2% ​ส่วนแบ่งตลาด ​21.9%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ ​1,086 คัน ​ลดลง ​39.3%​ ส่วนแบ่งตลาด4.8%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 35,908 คัน ลดลง 19.9%            

​อันดับที่ 1 โตโยต้า​ 12,373 คัน ​ลดลง​18.5% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ​​ 11,735 คัน​ ลดลง 27.9%​ ส่วนแบ่งตลาด 32.7%

​อันดับที่ 3 ฟอร์ด​ 2,754 คัน​ลดลง ​23.7% ​ส่วนแบ่งตลาด7.7%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 24,982 คัน ลดลง 26.6%                                 

​อันดับที่ 1 อีซูซุ ​​10,228 คัน ​ลดลง ​31.0%​ ส่วนแบ่งตลาด 40.9%

อันดับที่ 2 โตโยต้า​ 10,088 คัน ​ลดลง ​20.3%​ ส่วนแบ่งตลาด 40.4%

​อันดับที่ 3 ฟอร์ด​ 2,754 คัน​ ลดลง​ 23.7% ​ส่วนแบ่งตลาด11.0%

​​*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,673 คัน 

โตโยต้า 1,776 คัน - อีซูซุ 1,677 คัน – ฟอร์ด 934 คัน – มิตซูบิชิ 213 คัน – นิสสัน 73 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 20,309 คัน ลดลง 31.9%                 

อันดับที่ 1 อีซูซุ​ ​8,551คัน​ ลดลง​ 35.5%​ ส่วนแบ่งตลาด 42.1%

อันดับที่ 2 โตโยต้า​ 8,312 คัน ​ลดลง  26.7%​ส่วนแบ่งตลาด 40.9%

​อันดับที่ 3 ฟอร์ด​ 1,820 คัน​ ลดลง ​37.4%​ ส่วนแบ่งตลาด 9.0%       

รวมยอดขายรถใหม่ในไทย เดือนกรกฎาคม 2566

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กรกฏาคม 2566

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 464,550 คัน ลดลง 5.5%                            

อันดับที่ 1 โตโยต้า​ 157,280 คัน ​ลดลง​ 3.1% ​ส่วนแบ่งตลาด 33.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ​ ​ 98,016 คัน​ ลดลง 22.3% ส่วนแบ่งตลาด 21.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า​ 53,685 คัน​ เพิ่มขึ้น​ 13.2%​ ส่วนแบ่งตลาด 11.6%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 170,598 คัน เพิ่มขึ้น 10.0%                                 

อันดับที่ 1 โตโยต้า​ 59,089 คัน ​เพิ่มขึ้น ​34.3% ​ส่วนแบ่งตลาด 34.6%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า​ 35,347 คัน ​เพิ่มขึ้น​ 3.3% ​ส่วนแบ่งตลาด 20.7%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ​ 10,664 คัน ​ลดลง 17.8%​ ส่วนแบ่งตลาด 6.3%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 293,952 คัน ลดลง 12.6%                     

​อันดับที่ 1 โตโยต้า ​ 98,191 คัน​ ลดลง ​17.0% ​ส่วนแบ่งตลาด ​33.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ​​ 98,016 คัน​ ลดลง ​22.3%​ ส่วนแบ่งตลาด ​33.3%

​อันดับที่ 3 ฟอร์ด​ 22,871 คัน ​เพิ่มขึ้น ​23.6%​ ส่วนแบ่งตลาด 7.8%

รวมยอดขายรถใหม่ในไทย เดือนกรกฎาคม 2566

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 207,934 คัน ลดลง 20.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ​​ 88,861 คัน ​ลดลง ​23.6%​ ส่วนแบ่งตลาด ​42.7%

อันดับที่ 2 โตโยต้า​ 80,632 คัน ​ลดลง 20.9% ​ส่วนแบ่งตลาด ​38.8%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด​ 22,871 คัน ​เพิ่มขึ้น ​23.6%​ ส่วนแบ่งตลาด​ 11.0%

​​*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 37,940 คัน

​โตโยต้า 13,538 คัน - อีซูซุ 13,630 คัน – ฟอร์ด 7,204 คัน – มิตซูบิชิ 2,806 คัน – นิสสัน 762 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 169,994 คัน ลดลง 25.5%

​อันดับที่ 1 อีซูซุ​​ 75,231 คัน ​ลดลง 28.8% ​ส่วนแบ่งตลาด 44.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า​ 67,094 คัน ​ลดลง 23.0%​ ส่วนแบ่งตลาด 39.5%

​อันดับที่ 3 ฟอร์ด​ 15,667 คัน​ เพิ่มขึ้น ​0.7% ​ส่วนแบ่งตลาด 9.2% 

แหล่งที่มาจาก:
- ตลาดรถยนต์เริ่มต้นครึ่งปีหลังติดลบ 8.8% ยอดขาย 58,419 คัน ยอดขายรถยนต์นั่งสดใส เติบโตต่อเนื่องที่ 17.3% ยอดขาย 22,511 คัน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง