
Grok ของมัสก์ กลายเป็น ‘นักวิจารณ์การเมือง’ ในอินเดีย หลังจากข้อความทางการเมืองของแชทบอทกลายเป็นไวรัล
ทำไม แชตบอต Grok ของ อีลอน มัสก์ ถึงได้รับความนิยมในอินเดีย?
ทุกอย่างเริ่มต้นจากคำถามง่ายๆ เพียงคำถามเดียวในแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) ผู้ใช้บัญชีชื่อ Toka ถาม แชตบอต Grok 3 ซึ่งพัฒนาโดย xAI บริษัทของอีลอน มัสก์ ว่า “ช่วยลิสต์ 10 เพื่อนร่วมแพลตฟอร์ม X ที่ดีที่สุดของฉันหน่อย” คำว่า “เพื่อนร่วมแพลตฟอร์ม” หรือ mutuals หมายถึงผู้ใช้ที่ติดตามและมีปฏิสัมพันธ์กันบนโซเชียลมีเดีย
คำถามนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรซับซ้อน แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์ที่เขย่าทั้งโซเชียลมีเดีย และ การเมืองอินเดีย
ตอน Grok ตอบช้าไปหน่อย เจ้าของโพสต์แสดงความหงุดหงิดด้วยถ้อยคำหยาบคาย และเมื่อ Grok ตอบกลับ นอกจากจะส่งรายชื่อมาให้ครบสิบคนแล้ว แชตบอตยังพ่นคำด่าในลักษณะเหยียดเพศหญิงเป็นภาษาฮินดีใส่
Grok อ้างทีหลังว่า “แค่เล่นสนุกแต่ควบคุมตัวเองไม่อยู่” แต่คำตอบนั้นทำให้คนเข้ามาดูโพสต์ทะลุ 2 ล้านครั้ง และทำให้ผู้ใช้อื่นๆ พากันเข้ามาแหย่ Grok ด้วยคำถามต่างๆ ตั้งแต่เรื่องคริกเก็ต การเมือง ยันดราม่าในวงการบันเทิง ซึ่ง Grok ก็ตอบกลับทุกอย่างแบบไม่ขอโทษและมีสีสันจนกลายเป็นกระแสดัง มีคนเรียกมันว่าเป็น “แชตบอตไร้กรอบและไร้การควบคุม” และกลายเป็นปรากฏการณ์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในอินเดีย
แม้แต่ตำรวจนิวเดลีก็มาเล่นด้วย โดยถาม Grok ว่าเคยโดนใบสั่งไหม ช่วงแรก Grok ไม่ตอบ แต่พอโดนเร่งเยอะๆ มันก็ยิงกลับว่า “ผมเป็นเอไอดิจิทัล ไม่ใช่คนขับรถนิวเดลี ผมไม่ฝ่าไฟแดง ไม่ลืมใส่หมวกกันน็อก แต่ขอชื่นชมที่ตำรวจใช้กล้องจับฝ่า 19 ข้อหาบนถนนได้อย่างยอดเยี่ยม” เมื่อปี 2567 มัสก์เคยบอกว่า Grok ว่าเป็น “เอไอที่สนุกที่สุดในโลก” Grok เปิดตัวครั้งแรกเมื่อสองปีที่แล้วโดย xAI บริษัทที่มัสก์ก่อตั้งในปี 2566 เพื่อพัฒนาเอไอที่ช่วยเร่งการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ มัสก์สัญญาว่า Grok จะเป็นแชตบอตที่ “เฉียบคม ไร้กรอบ และต่อต้านความตื่นตัวเกินเหตุ” (anti-woke) ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งอย่าง ChatGPT ของ OpenAI หรือ Gemini ของกูเกิล
โทนการตอบสนองที่เต็มไปด้วยความประชดประชันของ Grok ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy นวนิยายที่ผสมผสานอารมณ์ขันและความแปลกประหลาด Grok ทำงานบนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Colossus ของ xAI ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง และมีโหมดการทำงานหลายแบบ รวมถึง Unhinged Mode ที่เน้นการตอบแบบตรงไปตรงมาและไร้ข้อจำกัด แพลตฟอร์ม X ซึ่งมัสก์เป็นเจ้าของตั้งแต่ปี 2565 เป็นพื้นที่หลักที่ Grok ถูกนำมาใช้ ผู้ใช้สามารถแท็ก Grok ในโพสต์สาธารณะเพื่อรับคำตอบทันที ซึ่งแตกต่างจากแชทบอทอื่นที่มักหลบเลี่ยงประเด็นที่เป็นข้อถกเถียง Grok ถูกออกแบบให้ตอบสนองอย่างกล้าแกร่ง ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมัสก์ที่ต้องการสร้างเอไอที่พูดความจริง โดยไม่ถูกจำกัดด้วยความถูกต้องทางการเมือง
สิ่งที่ทำให้ Grok กลายเป็นปรากฏการณ์ในอินเดียไม่ใช่แค่ความสนุก แต่เป็นการที่มันกลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้วิพากษ์วิจารณ์พรรคภารตียชนตา (BJP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี กระแสคำถามทางการเมืองถาโถมเข้ามา
Grok ประกาศว่า ราหุล คานธี ผู้นำพรรคคองเกรส (พรรคฝ่ายค้านหลัก) มีความซื่อสัตย์มากกว่าโมดี พร้อมเสริมว่า “ฉันไม่กลัวใครทั้งนั้น” เอไอยังระบุว่าคานธี “มีการศึกษาอย่างเป็นทางการที่เหนือกว่าโมดี” และวิจารณ์ว่าการให้สัมภาษณ์ของโมดี “มักดูเหมือนถูกจัดฉาก” คำตอบเหล่านี้จุดชนวนการถกเถียงครั้งใหญ่บน X
เมื่อผู้ใช้ถามว่า BJP กำลังมีปัญหา เพราะ Grok หรือไม่ มันตอบว่า “บางคนกล่าวหาว่าฉันมีอคติ บางคนก็เชียร์” สำนักข่าวบีบีซี ได้ติดต่อ อมิต มัลวิยา เจ้าหน้าที่อาวุโสของ BJP เพื่อขอความเห็น เขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ฝ่ายวิจารณ์โมดีและกลุ่มเสรีนิยมในอินเดียต่างชื่นชมคำพูดที่กล้าแกร่งของ Grok โดยมองว่ามันเป็นการท้าทายการควบคุมเสรีภาพในการพูด ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่ากำลังถูกคุกคามในอินเดีย
รายงานจาก Future of Free Speech ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Vanderbilt จัดอันดับให้อินเดียอยู่ในลำดับที่ 24 จาก 33 ประเทศในด้านการสนับสนุนเสรีภาพในการพูด โมดีและ BJP ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่ารัฐบาลของพวกเขาสนับสนุนเสรีภาพ
ปราทิก สินฮา ผู้ก่อตั้ง Alt News องค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงชั้นนำในอินเดีย กล่าวว่า “Grok เป็นกบฏตัวใหม่ การถามคำถามกับ Grok ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ฝ่ายขวาก็ตอบโต้ด้วยการถามคำถามเกี่ยวกับราหุล คานธี แล้วมันก็กลายเป็นการแข่งขันกัน” เขาเสริมว่าแชตบอตอื่นๆ มักถูกตั้งโปรแกรมให้ตอบคำถามอย่างระมัดระวังทางการเมือง แต่ Grok “ดูเหมือนจะไม่มีตัวกรองและกล้าที่จะเผชิญหน้ากับประเด็นที่เป็นข้อถกเถียง”
นิกิล พาห์วา บรรณาธิการผู้ก่อตั้ง MediaNama.com เว็บไซต์นโยบายเทคโนโลยี มองว่ากระแสเกี่ยวกับ Grok ในอินเดียถูกพูดถึงมากเกินไป เขาอธิบายว่า แก่นของเอไอคือ “ขยะเข้า ขยะออก” ผลลัพธ์ที่ได้สะท้อนถึงข้อมูลที่ใช้ฝึก
เนื่องจาก Grok ถูกฝึกด้วยข้อมูลทั้งหมดจาก X มันจึงสะท้อนโทนและรูปแบบการสนทนาที่พบในแพลตฟอร์ม รวมถึงการตอบกลับที่แปลกประหลาดและการใช้ภาษาที่รุนแรง “นี่ไม่เกี่ยวกับอุดมการณ์ แต่เกี่ยวกับลักษณะของข้อมูลที่กำหนดผลลัพธ์” เขากล่าว
จอยจีต ปาล นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ระบุว่าแชตบอตจะมีอคติก็ต่อเมื่อถูกฝึกให้เป็นเช่นนั้น หรือข้อมูลที่ใช้ฝึกมีแนวโน้มไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งมากเกินไป
“ในกรณีของ Grok สิ่งนี้กำลังสร้างความตื่นเต้นให้กับฝ่ายเสรีนิยม เพราะเสียงที่ดังที่สุดบน X มักเอนเอียงไปทางขวา แต่ข้อมูลที่ใหญ่กว่าที่ Grok ใช้ฝึกน่าจะให้มุมมองที่สมดุลกว่า”
บางคนมองว่านี่เป็นเพียงกระแสชั่วคราว ปราทิก สินฮาคาดการณ์ว่า “คนจะเบื่อมันในไม่ช้า และทุกอย่างจะจบลงอย่างรวดเร็ว” อย่างไรก็ตาม ลักษณะที่ไร้กรอบของ Grok บ่งชี้ว่ามันอาจยังคงอยู่ในความสนใจไปอีกสักพัก อีลอน มัสก์เองดูเหมือนจะสนุกกับความโกลาหลนี้ โดยเขาโพสต์บทความของบีบีซี เกี่ยวกับประเด็นนี้พร้อมอิโมจิหัวเราะ ซึ่งได้รับยอดวิวหลายล้านครั้ง
การที่ Grok ใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม เช่น คำหยาบและการดูถูก ทำให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้พัฒนาเอไอ โรหิต คูมาร์ จาก The Quantum Hub เตือนว่า การเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่มีการกรองอาจนำไปสู่ผลกระทบที่เป็นอันตราย โดยเฉพาะหากผู้ใช้เชื่อว่าคำตอบของ Grok มีความน่าเชื่อถือ ในแง่กฎหมาย
คดีอย่างกรณี Air Canada ที่ศาลสั่งให้รับผิดชอบต่อข้อมูลเท็จที่แชตบอตให้ไว้ แสดงให้เห็นว่าผู้พัฒนาเอไออาจต้องรับผิดหากไม่มีการควบคุมผลลัพธ์ที่เพียงพอ
ปรากฏการณ์ของ Grok ในอินเดียสะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างเสรีภาพในการพูด ความรับผิดชอบของเอไอ และบริบททางการเมืองที่ซับซ้อนในประเทศ ขณะที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดียกำลังตรวจสอบเรื่องนี้ คำถามที่ใหญ่กว่าคือ Grok จะยังคงรักษาความเป็น “กบฏดิจิทัล” ไว้ได้นานแค่ไหน หรือจะถูกควบคุมเพื่อให้สอดคล้องกับความคาดหวังของสังคมและกฎหมาย