Leapmotor B10 ใหม่ ชาร์จไฟวิ่งไกล 600 กม. เปิดตัวในไทยไตรมาส 3 ปี 68 เปิดราคาเริ่มในจีนที่ 5.12 แสนบาท
Leapmotor B10 ใหม่ ชาร์จไฟวิ่งไกล 600 กม. เปิดตัวในไทยไตรมาส 3 ปี 68 เปิดราคาเริ่มในจีนที่ 5.12 แสนบาท

Leapmotor B10 ใหม่ ชาร์จไฟวิ่งไกล 600 กม. เปิดตัวในไทยไตรมาส 3 ปี 68 เปิดราคาเริ่มในจีนที่ 5.12 แสนบาท

Leapmotor B10 ใหม่ ถูกนำมาจัดแสดงที่งาน Auto Shanghai 2025 ณ กรุงเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยรถรุ่นดังกล่าวเป็น C-SUV ขนาดรองจาก Leapmotor C10 ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม LEAP 3.5 Architecture และถือเป็นโมเดลที่ 6 ของค่าย Leapmotor ภายใต้เครือ Stellantis ที่มีแบรนด์ชั้นนำ เช่น Peugeot, Citroen, DS Automobiles และ Jeep เป็นต้น

ดีไซน์ จะมีลักษณะที่ดูคล้ายกับ Leapmotor C10 ที่เป็นรถในรูปแบบเอสยูวีไฟฟ้าเหมือนกัน เส้นสายตัวรถเน้นความเรียบหรู พร้อมดีไซน์ให้สอดรับกับระบบแอร์โร่ไดนามิค เพื่อให้ลดแรงต้านอากาศ โดยในส่วนของด้านหน้าจะมาในแบบปิดทึบ มากับชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน ด้านบนเป็น แถบไฟ LED ที่ออกแบบให้มีความเรียวยาว โดยมีแถบสีดำเชื่อมต่อชุดไฟหน้าที่สองฝั่งข้าไว้ด้วยกัน ถัดลงมาด้านล่าง จะเป็นชุดส่องสว่างที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ซึ่งเชื่อมต่อเป็นชุดเดียวกันกับ ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ กันชนหน้าผสานไฟหน้าและช่องรับอากาศเข้า Leapmotor B10 ยังมีเซ็นเซอร์ LiDAR บนหลังคา มือจับประตูแบบเรียบ และชุดไฟท้ายแบบเดี่ยว เส้นสายด้านข้างก็ยังออกแบบให้ยังดีไซน์ให้ลดแรงต้านอากาศ มือเปิดประตูเป้นนแบบซ่อนที่ราบเรียบไปกับตัวรถ พร้อมติดตั้งกล้องไว้ที่ขอบซุ้มล้อหน้าทั้ง 2 ฝั่ง รวมทั้งยังมาเซ็นเซอร์ LiDAR ที่อยู่บนหลังคาด้านหน้า ขณะที่ชุดล้ออัลลอยเป็นแบบทูโทนปัดเงาขนาด 18 นิ้ว ส่วนด้านท้ายติดตั้งชุดไฟท้าย LED ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ โดยมีชื่อแบรนด์ Leapmotor วางอยู่ด้านล่าง ขณะที่ด้านบนหลังคาด้านท้ายเสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ โดยมีชุดไฟเบรกดวงที่สาม และกล้องติดด้านหลังติดไว้อยู่ที่่ด้านบน

Leapmotor B10 ในรุ่นเริ่มต้นจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่มีกำลังสูงสุด 132 kW (177 แรงม้า) ส่วนในรุ่นตัวแรงจะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 160 kW (214 แรงม้า) โดยจะให้อัตราเร่งจาก 0 – 100  กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.8 วินาที 

ด้านชุดแบตเตอรี่จะมีให้เลือก 2 ขนาดความจุ โดยจะมากับแบตเตอรี่ LFP ความจุ 56.2 kWh ชาร์จไฟเต็มจะให้ระยะทางวิ่งไกล 510 กม. (ตามมาตราฐาน CLTC) ส่วนในรุ่น Long Range จะมากับแบตเตอรี่ขนาด 67.1 kWh  ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งจะให้ระยะทางวิ่งไกลสุด 600 กม. (ตามมาตราฐาน CLTC) 

เทคโนโลยี่แบตเตอรี่เป็นแบบ CTC 2.0 (Cell-to-Chassis) มีให้เลือก 2 ขนาด คือ ขนาด 56.2 kWh และ 67.1 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทาง 510 กม. และ 600 กม. ตามลำดับ (ตามมาตรฐาน CLTC) รองรับการชาร์จด่วน DC จาก 30-80% ระยะเวลาต่ำสุด 19 นาที

Leapmotor B10 สามารถเลือกติดตั้งระบบ LiDAR ที่มาพร้อมกล้องหลังขนาด 3 ล้านพิกเซล และชิปประมวลผล Qualcomm 8650 สำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่ เช่น ระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง Highway Pilot Assist (NAP), ระบบช่วยขับขี่ทำงานควบคู่กับระบบนำทาง Navigation Assisted Cruise (NAC) และระบบช่วยเปลี่ยนเลน Lane Change Assist (ALC) เป็นต้น

ภายในห้องโดยสารของ Leapmotor B10 จะมาในแบบมินิมอล ตาามสไตล์รถรุ่นใหม่ ๆ  ที่จะลดการใช้ปุ่มสั่งงาน โดยในส่วนของแผงแดชบอร์ดจะมีเพียงแผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงกรมแบบ 2 ก้าน ตรงกลางคอนโซลหน้าจะเป็นหน้าจออินโฟนเทนเมนต์ ที่มาในแบบแขวน โดยมีขนาด 14.6 นิ้ว พร้อมกับออกแบบช่องปรับอากาศให้มาในทรงรูปรี รวมทั้งยังตกแต่งในส่วนกรอบช่องแอร์ด้วยวัสดุสีทองแดง ที่ช่วยเพิ่มความหรูหราใให้มากยิ่งขึ้น

ส่วนคอนโซลกลางจะมีเพียงแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายมาให้ 2 ช่องเท่านั้น เพราะในส่วนชุดเกียร์จะเป็นแบบคันเกียร์ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังพวงมาลัย นอกจากนั้นยังได้รับชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง และยังมาพร้อมกับหลังคาซันรูฟที่มีขนาดความกว้างมากถึง 1.83 ตารางเมตร

Leapmotor B10 ที่จะเปิดวางวจำหน่ายในนจะมีเฉดสีตัวถังให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีม่วง / สีเทาอ่อน / สีขาว / สีเงิน / สีดำ และสีเทาเข้ม ส่วนเฉดสีภายในห้องโดยสารจะมีให้เลือก 2 สี  ได้แก่ สีเทาและสีม่วง

Leapmotor B10 เน้นทำตลาดด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย โดยตั้งราคาจำหน่ายที่ประเทศจีนอยู่ระหว่าง 99,800 - 129,800 หยวน หรือประมาณ 450,000 - 590,000 บาท อีกทั้งยังระบุด้วยว่าสามารถทำยอดจองจากลูกค้าชาวจีนมากถึง 31,688 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้น

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง