
BYD เตรียมติดตั้ง ระบบ God’s Eye (ดวงตาพระเจ้า)
นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ ตามเวลาญี่ปุ่นว่า BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนจะติดตั้งระบบ God’s Eye (ดวงตาพระเจ้า) ซึ่งเป็นระบบขับขี่อัตโนมัติที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัทให้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เกือบทุกรุ่นเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้
ในงานแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ระดับโลกของผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ในนครเสิ่นเจิ้น เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายหวัง ชวนฟู (Wang Chuanfu) ผู้ก่อตั้ง BYD กล่าวแนะนำระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่เรียกว่า ดวงตาพระเจ้า หรือ “God’s Eye” รุ่นล่าสุดของบริษัทจำนวน 3 รุ่น ซึ่งเขากล่าวว่าสามารถขับขี่อัตโนมัติได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตรโดยไม่มีการรบกวน และมีอัตราความสำเร็จ 99% สำหรับบริการรับจอดรถด้วย
“อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการขับขี่อัจฉริยะคือต้นทุนที่สูง” นายหวังกล่าว “ปัจจุบัน รถยนต์ส่วนใหญ่ที่ติดตั้งเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติมีราคาสูงกว่า 200,000 หยวน (ราว 930,000 บาท) ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงได้ ผมเชื่อว่าเทคโนโลยีที่ดีควรเข้าถึงได้สำหรับทุกคน”
หวังกล่าวว่า รถยนต์ที่ขายในจีนเมื่อปีที่แล้วมีเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงไม่ถึง 10% ในขณะที่ผู้ซื้อรถยนต์ชาวจีน 70% ซื้อรถยนต์ที่มีราคาต่ำกว่า 200,000 หยวน (ราว 930,000 บาท) หวังยังเชื่อว่าเมื่อผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงมากขึ้น เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะของจีนจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยข้อมูลจะถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลเร็วขึ้น การขับขี่อัจฉริยะจะกลายเป็นคุณลักษณะสำคัญของรถยนต์จีน
ก่อนหน้านี้ เทสลา ผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐและคู่แข่ง BYD เคยกล่าวว่า คาดว่าจะเปิดตัวระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติขั้นสูงแบบเต็มรูปแบบในจีนในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบอกว่า วันที่เปิดตัวอาจช้ากว่าที่เทสลาคาดไว้
ADVERTISMENT
เมื่อปีที่แล้ว BYD เปิดเผยว่า จะให้ความสำคัญกับระบบขับขี่อัจฉริยะ ในฐานะที่เป็นกลยุทธ์หลักด้วยการลงทุน 100,000 ล้านหยวน (466,000 ล้านบาท) จนปัจจุบันทีมที่ทำงานด้านระบบขับขี่อัจฉริยะของบริษัทมีพนักงานมากกว่า 5,000 คน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างมาก
หวังกล่าวว่า ระบบ “ดวงตาพระเจ้า” จะถูกนำไปใช้ในรถยนต์ทุกรุ่นที่มีราคาเกิน 100,000 หยวน (ราว 466,000 บาท) และรถยนต์ส่วนใหญ่ที่มีราคาต่ำกว่า 100,000 หยวน ดังกล่าว
หยาง ตงเฉิง รองประธาน BYD กล่าวว่า BYD จะผสานรวมความสามารถของโมเดลขนาดใหญ่ของ DeepSeek ซึ่งเป็นสตาร์ตอัพเอไอของจีนเข้ากับสถาปัตยกรรมยานยนต์อัจฉริยะเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพของการสร้างข้อมูลอัตโนมัติ ซึ่งการใช้ประโยชน์จาก “ความสามารถในการแสดงความรู้และการใช้เหตุผลอันทรงพลัง” ของ DeepSeek ยังช่วยให้เข้าใจความต้องการและเจตนาโดยนัยของผู้ใช้ได้ดีขึ้น แม้ว่าเมื่อไม่ชัดเจนก็ตาม
ทั้งนี้ BYD เปิดตัว God’s Eye ในปี 2023 และนำไปใช้งานในรถยนต์หลายรุ่น ซึ่งเป็นระบบภายในของบริษัทที่ผสานรวมเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น ไลดาร์ เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร กล้อง และเซ็นเซอร์อัลตราโซนิก เพื่อให้เข้าใจสภาพแวดล้อมของรถได้อย่างครอบคลุม หนึ่งในฟีเจอร์ของระบบนี้คือ ระบบนำทางในเมืองแบบอัตโนมัติ (CNOA) ซึ่งช่วยนำทางในบริเวณทางแยกที่ซับซ้อน สัญญาณไฟจราจร การแซงอัตโนมัติ การหลบหลีกสิ่งกีดขวาง และการเปลี่ยนเลนด้วยตนเอง ซึ่งมีจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
God’s Eye ที่ใช้เทคโนโลยีไตรไลดาร์ที่ล้ำหน้าที่สุดจะนำไปใช้ใน Yangwang Auto ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์ของ BYD เป็นหลัก
BYD ขายรถยนต์ที่ติดตั้งระบบขับขี่อัจฉริยะได้กว่า 4 ล้านคัน ซึ่งมากกว่าผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ของจีน แต่รถยนต์ส่วนใหญ่เหล่านี้มีระบบ DiPilot ซึ่งเป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงที่เปิดตัวโดยศูนย์การเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connectivity Center) ของ BYD ทั้งนี้ สัดส่วนของรุ่นที่ติดตั้งระบบ God’s Eye ที่ล้ำหน้ากว่าระบบ DiPilot นั้นยังค่อนข้างต่ำ