เเนะนำ 7 รถยนต์มือสอง ปัจจุบันราคาเหลือหลักหมื่น
1. Honda Jazz GD
Honda Jazz รหัส GD ยังคงเป็นรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตูยอดฮิตตลอดกาล เพราะแม้ว่าอายุตลาดจะเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2004 แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีวัยรุ่นนิยมจับมาเล่นอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากมีอะไหล่เพียบ ของแต่งเยอะ แถมราคาปัจจุบันเหลือแค่หลักหมื่นเท่านั้น จะซื้อมาเก็บงานอีกหน่อยก็ยังคุ้ม
2. Toyota Corolla Altis E140
Toyota Corolla Altis โฉมหน้าแบนรหัส E140 แม้ว่ารูปลักษณ์จะดูเชยไปสักหน่อย แต่ในเรื่องการใช้งานถือว่าตอบโจทย์ ด้วยขนาดตัวถังกำลังพอดี ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป จะใช้คนเดียวหรือใช้ทั้งครอบครัวก็ได้ แถมอะไหล่แท้เทียบก็มีให้เลือกเพียบ เพียงแต่ต้องหาสภาพดีหน่อย หลีกเลี่ยงอดีตแท็กซี่ (หรือนิยมเรียกว่ารถปลดป้าย) กำเงินเก็บงานสัก 2-3 หมื่น รับรองใช้ได้อีกยาวๆ จะเอาไปติด LPG ก็ทนทายาด
3. Toyota Camry
Toyota Camry รหัส ACV30 หรือที่เรียกกันว่าโฉมผู้นำ ก็จะได้รถเก๋ง 4 ประตู (เคย) หรู ดีไซน์ภูมิฐาน แนะนำให้เล่นรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ที่กินน้ำมันพอๆ กับรุ่น 2.0 ลิตร แต่เรี่ยวแรงสมน้ำหนักตัวมากกว่า หากกังวลว่ากินจุก็นำไปติด LPG ได้สบาย เพียงแต่ต้องแน่ใจว่าเจ้าของเดิมดูแลรักษามาอย่างดี จะได้ไม่เหนื่อยเก็บงานนัก
4. Honda Civic (โฉม FD)
Honda Civic โฉม FD ปัจจุบันก็ยังถือว่าน่าเล่น เพราะแม้ว่าอายุโมเดลจะเก่าเกือบ 20 ปีแล้ว แต่รูปทรงยังน่าใช้ จะเก็บเดิมหรือจะไปแต่งต่อก็ง่าย ยิ่งถ้าหากเจ้าของเดิมดูแลรักษาอย่างดี บอกเลยว่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรบล็อกนี้ยังฟาดฟันกับรถรุ่นใหม่ๆ ได้อย่างสบาย แต่แนะนำว่าควรหารถสภาพเดิมๆ ไม่เคยแต่งมาจนช้ำจะดีที่สุด
5. Mazda2 โฉมแรก (DE)
Mazda2 โฉมแรก (DE) ที่มีให้เล่นทั้งตัว 4 ประตู และ 5 ประตู แม้ว่าชื่่อชั้นจะเป็นรองเจ้าตลาด แต่เรื่องความทนทานไม่แพ้กัน เพียงแต่อะไหล่จะหายากหน่อย หลายชิ้นควรใช้ของแท้ซึ่งมีราคาสูง แต่ก็แลกมาด้วยเครื่องยนต์ที่แรงกว่ารถอีโคคาร์ 1.2 ลิตร แถมช่วงล่างที่แน่นหนึบไว้ใจได้
6. Honda CR-V Gen 1
Honda CR-V เจน 1 ไม่ก็เจน 2 ที่แนะนำแบบนี้เพราะราคามือสองทั้งสองรุ่นไม่แตกต่างกัน เน้นรูปทรงที่ชอบ หรือเน้นไปที่สภาพจะดีกว่า ปัจจุบันทั้งคู่ยังมีอะไหล่ให้เลือกเพียบ บำรุงรักษาก็ง่าย ไม่จุกจิก เว้นแต่ถ้าไปติดแก๊สอาจจะต้องดูแลรักษามากหน่อย แต่หากมีความรู้ด้านการบำรุงรักษาเครื่องยนต์อยู่แล้วล่ะก็ถือว่าไปต่อได้สบาย
7. Toyota Wish
Toyota Wish ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แม้ว่าราคามือสองส่วนใหญ่ยังเกินแสน แต่ก็เหมาะสำหรับการนำมาใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยรูปทรงที่ยังคงสวยเป็นอมตะ พร้อมเบาะแถว 2 แบบ Captain Seat เรื่องการบำรุงรักษาไม่จุกจิก (ถ้าเจ้าของเดิมดูแลดี) แต่ปัญหาปวดหัวคือเบาะแถว 3 แอร์ไม่ถึง ซึ่งปัจจุบันมีทางแก้หลากหลาย เช่น การทำช่องแอร์เสริม หรือถ้าไม่อยากเจาะรถก็หาพัดลมเล็กๆ เพื่อส่งความเย็นไปเบาะแถวหลังได้
อย่างไรก็ดี การเลือกซื้อรถมือสองจำเป็นต้องมีความรู้ในการดูรถเป็นอย่างดี จะได้ไม่เจ็บตัวและเจ็บใจในภายหลัง ทางที่ดีควรพาผู้ที่มีความรู้ไปช่วยเลือกได้ จะช่วยลดโอกาสเจอรถย้อมแมว