ปีทอง! ราคารถมือสองปี 2567 ร่วงหนัก 18%
ปีทอง! ราคารถมือสองปี 2567 ร่วงหนัก 18%

ปีทอง! ราคารถมือสองปี 2567 ร่วงหนัก 18% 

ในช่วงปี พ.ศ. 2566 - 2567 ตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทยเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก โดยมีจำนวนรถยนต์ที่ถูกสถาบันการเงินยึดประมาณ 250,000 - 300,000 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปีก่อนหน้าอยู่ประมาณ 150,000 - 180,000 คัน เป็นปัจจัยที่ทำให้ปริมาณรถมือสองล้นตลาด ผู้ประกอบกิจการรถยนต์มือสองจำเป็นต้องกดราคาขายให้ต่ำลง บางแห่งอาจถึงขั้นยอมขาดทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องทางธุรกิจ


รถที่ถูกยึดทั้งหมดจะถูกส่งไปลานประมูลต่างๆ ส่งผลให้ปี 2566 มีรถเข้าลานประมูลสูงถึงเกือบ 3 แสนคัน ส่งผลให้ปริมาณรถมือสองล้นตลาด ผู้ประกอบกิจการรถมือสองจำเป็นต้องกดราคาขายให้ต่ำลง บางเต็นท์อาจถึงขั้นต้องยอมปล่อยขาดทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของธุรกิจให้ยังคงดำเนินต่อไปได้

ช่วงปี 2566 - 2567 เป็นช่วงที่ตลาดรถยนต์มือสองมีความผันผวนเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ชัดจากราคาขายต่อรถยนต์ที่ร่วงหนักแทบทุกรุ่นทุกยี่ห้อไม่เว้นแม้แต่แบรนด์เจ้าตลาด ซึ่งปัจจัยหลักมี 3 เหตุผลดังต่อไปนี้

1.มีรถถูกยึดจำนวนมาก
ตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา มีปริมาณรถถูกยึดทั้งสิ้นราว 250,000 - 300,000 คัน อันเป็นผลมาจากมาตรการพักชำระหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สิ้นสุดลงเมื่อปลายปี 2566 ส่งผลให้ลูกหนี้บางส่วนผ่อนต่อไม่ไหว ยอมปล่อยให้สถาบันการเงินยึดรถกลับไป

 

2.ตลาดป้ายแดงแข่งขันสูง
ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ถือเป็นตัวซ้ำเติมที่ทำให้ตลาดรถยนต์มือสองซบเซา เนื่องจากการแข่งขันกันอย่างหนักด้วยกลยุทธ์ด้านราคาจำหน่ายที่หั่นราคากันแบบไม่ยั้ง สะเทือนไปถึงแบรนด์รถญี่ปุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปและไฮบริด ที่แม้ว่าจะไม่ได้ลงมาเล่นสงครามราคาเหมือนกับตลาด EV แต่ก็ต้องปล่อยโปรโมชันลดแลกแจกแถมเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ หรือแม้แต่กรณีของ Toyota Corolla Cross ที่คงราคาจำหน่ายเท่าเดิมในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่แทบไม่เคยพบเห็นมาก่อนจากแบรนด์เจ้าตลาด


3. ไฟแนนซ์ปล่อยรถยากขึ้น
จากปัญหารถถูกยึดจำนวนมากในปี 2566 ที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้สถาบันการเงินต้องปรับเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อตามไปด้วย บางแหล่งข่าวระบุว่าลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ 10 ราย จะได้รับการอนุมัติเพียง 2 รายเท่านั้น ส่งผลให้เต๊นท์ปล่อยรถได้ยากขึ้นกว่าเดิม บางรายจำเป็นต้องยอมขายขาดทุนให้มีสภาพคล่องเพื่อนำเงินที่ได้มาเป็นทุนในการซื้อรถคันใหม่นั่นเอง


ถือเป็นโอกาสทองสำหรับผู้้ที่กำลังมองหารถมือสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่เตรียมเงินก้อนซื้อสดโดยไม่จัดไฟแนนซ์ หรือผู้ที่มีเครดิตค่อนข้างดีนั่นเอง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง