GAC AION (จีเอซี ไอออน) พร้อมลุยตลาดรถพรีเมียม อีวี!
HYPER แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่เป็น HYPTEC ปรับปรุงภาพลักษณ์และกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยการเปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก HYPER เป็น HYPTEC เกิดจากการศึกษาวิจัยตลาดและความต้องการของลูกค้าทั่วโลก ชื่อแบรนด์ HYPTEC มีที่มาจาก "Hyper" สื่อถึงความสุดยอดและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ "Technology" สื่อถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
HYPTEC Design
HYPTEC HT ออกแบบตามแนวคิด Aesthetics of mechanics and humanity ดีไซน์หลังคาแบบลาดเอียง (Fastback) ช่วยเพิ่มอากาศพลศาสตร์ ดีไซน์ด้านหน้าจาก อัญมณีคริสตัล สร้างรูปลักษณ์หน้ารถที่ด้วยเทคนิคการขัดอัญมณี ไฟหน้าดีไซน์ Diamond Cut การออกแบบแบบคลาสสิกจากเพชร ส่องประกายสดใส ไฟท้าย Horizon ดีไซน์ไฟท้ายแบบรัน-ทรู ส่องแสงเวลากลางคืน
ไฮไลท์โดดเด่นของ HYPTEC HT ก็คือ ประตูปีกนก (Gull wing doors) ขึ้นลงขนาดใหญ่เป็นพิเศษด้วยความสูงของการเปิดที่ 2.3 เมตร ทำให้ไม่จำเป็นต้องก้มศีรษะหรือย่อตัวเมื่อต้องขึ้นหรือลงจากรถ สามารถเปิดประตูในที่จอดรถแคบๆ ได้ง่าย ระยะด้านข้างเพียง 34 ซม. เพื่อเปิดประตู ทำให้ปรับตัวได้ดีกับพื้นที่จอดรถทั่วไป ระบบหเลี่ยงสิ่งกีดขวางอัจฉริยะของระบบประตูปีกนกติดตั้งเรดาร์ 12 จุด ระบบดูดประตูไฟฟ้า ช่วยให้ประตูเปิดและปิดได้อย่างเงียบสนิทไม่ส่งเสียงรบกวน (เฉพาะรุ่น 620 Luxury)
HYPTEC HT ทั้งหมด 5 สี และสีภายในห้องโดยสาร 3 สี
สีภายนอก (Exterior)
Rose Star (โรสสตาร์) *เฉพาะรุ่น 620 Luxury
Spinel Grey (สปิเนลเกร)
Alpine White (อัลไพน์ไวท์)
Crystal Silver (คริสตัลซิลเวอร์)
Onyx Black (โอนิกซ์แบล็ก)
สีภายใน (Interior)
Berlin Beige (เบอร์ลินเบจ) *เฉพาะรุ่น 620 Luxury
Midnight Black (มิดไนท์แบล็ก)
Olympus Brown (โอลิมปัสบราวน์)
ห้องโดยสารระดับเฟิร์สคลาสขนาดใหญ่ เบาะนั่งโดยสารหุ้มด้วยวัสดุหนัง Nappa และที่พักแขนทำจากวัสดุไม้แท้ ฟีเจอร์เบาะรองน่องผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้ 143 องศา ที่รองขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง สามารถเหยียดขาได้ ยังมีโต๊ะอเนกประสงค์ในเบาะหลังคนขับดีไซน์โค้ง เพื่อลดอันตรายจากการกระแทกสำหรับเด็ก เบาะนวดไฟฟ้า 10 จุดคู่หน้า นวดระดับสปาด้วยโหมดการนวด 5 รูปแบบ
หลังคากระจกพาโนรามาขนาด 2.6 ตารางเมตร พร้อมม่านไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น 620 Premium) กระจกลามิเนตสองชั้นรอบคัน ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่พิเศษ 670 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋ากอล์ฟได้สามใบ พื้นที่จัดเก็บสัมภาระแบบสองชั้นขนาด 80 ลิตร บรรจุกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว พื้นที่จัดเก็บด้านหน้ารถใต้ฝากระโปรงหน้าขนาด 55 ลิตร
ระบบเสียง Dolby Atmos 7.1.2 พร้อมลำโพง 22 ตำแหน่ง ให้เสียงเบสที่หนักแน่น ลำโพงอิสระที่ตำแหน่งไหล่ของผู้ขับขี่ สามารถพูดคุยโทรศัพท์หรือฟังระบบนำทางโดยไม่รบกวนการฟังเพลงหรือภาพยนตร์ หน้าจอความละเอียดสูง 2.5K ขนาด 14.6 นิ้ว ประมวลผลด้วยชิป Qualcomm 8155รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และแอปพลิเคชันอื่น ๆ นอกจากนี้ HYPTEC HT ยังมาพร้อมระบบน้ำหอมปรับอากาศ ที่สามารถสั่งการผ่านหน้าจอกลาง เลือกกลิ่นได้ถึง 3 รูปแบบ
ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าหรือเสียสมาธิขณะขับขี่
ด้านสมรรถนะ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 250 กิโลวัตต์ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 5.8 วินาที
แบตเตอรี่ Magazine Battery 2.0 แบบ lithium ion phosphate ความจุ 83.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง พร้อมระบบไฟฟ้า 800 โวลต์
เทคโนโลยี “ซูเปอร์ชาร์จ” รองรับการชาร์จเร็ว จาก 10-70% ใช้เวลาภายใน 15 นาที และสามารถใช้งานได้ 372 กิโลเมตร
เมื่อชาร์จเต็มรองรับระยะทางขับขี่สูงสุด 620 กิโลเมตร พร้อมกับระบบจ่ายกระแสไฟสู่อุปกรณ์ภายนอก V2L กำลังสูงสุด 3,300 วัตต์
การขับขี่สามารถปรับแต่งได้ ทั้งในด้าน อัตราเร่ง การเบรก พวงมาลัย และการชาร์จคืนพลังงาน
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbones) ด้านหลังแบบอิสระ 5-Link มาพร้อม ASTC (Eagle Claw) ระบบรักษาเสถียรภาพอัจฉริยะ ช่วยปรับสมดุลของตัวรถโดยอัตโนมัติ
ด้านระบบความปลอดภัย HYPTEC HT มีออปชัน และระบบเด่นๆ เช่น
- ถุงลมด้านหน้า ด้านข้างตอนหน้า ม่านถุงลม
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา
- ระบบเตือนการเปิดประตู
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go
- ระบบควบคุมความเร็ว (ICA)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบควบคุมความเร็วในขณะเข้าโค้ง
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่
- ระบบเสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า
- ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
โดยในปี 2570 วางแผนจะสร้างสถานีชาร์จให้ครอบคลุม 100 เมืองทั่วประเทศ เป็นจำนวน 200 แห่ง ด้านการพัฒนาบุคลากร เพิ่มจำนวนพนักงานในประเทศไทยถึง 12.6 เท่า จากช่วงเริ่มต้นการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย