การเลือกซื้อรถมือสอง เลขไมล์ไม่ควรเกินกี่กิโลเมตร?
อันที่จริงแล้วไม่มีตัวเลขตายตัวว่าเลขไมล์เท่าไหร่จึงจะถือว่ามากเกินไป แต่หากพิจารณาจากพฤติกรรมจากการใช้รถโดยทั่วไปแล้ว จะพบว่าคนส่วนใหญ่ใช้รถประมาณ 15,000 - 20,000 กิโลเมตรต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับระยะการเข้ารับบริการทุก 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
ดังนั้น การพิจารณาว่ารถถูกใช้งานมากกว่าปกติหรือไม่นั้น จะต้องคำนึงถึงอายุของรถควบคู่กันไปด้วย หากรถมีอายุประมาณ 5 ปี มีเลขไมล์อยู่ที่ประมาณ 75,000 - 100,000 กิโลเมตร ก็ถือว่าอยู่ในข่ายการใช้งานปกติ แต่หากเกินกว่านี้จะถือว่าเป็นรถที่ใช้งานค่อนข้างหนัก ซึ่งโดยมากแล้วจะพบได้ในรถจดทะเบียนบริษัทเพื่อให้เซลส์นำไปใช้งาน หรือรถสำหรับรับ-ส่งผู้บริหาร เป็นต้น
เลขไมล์รถยนต์ สำคัญแค่ไหน ?
เลขไมล์ (Car Mileage) เป็นตัวบ่งบอกถึงระยะทางในการขับขี่ของรถยนต์และยังสามารถบอกถึงระยะการดูแล การเข้ารับการตรวจสภาพรถยนต์ หรือการเปลี่ยนถ่ายไส้กรองต่าง ๆ ในรถยนต์และของเหลวภายในรถได้ด้วย เพราะอะไหล่รถยนต์ทุกชิ้นและส่วนประกอบทุกอย่างของรถยนต์ย่อมมีอายุการใช้งานทั้งหมด
โดยปกติแล้วเลขไมล์จะแสดงอยู่บนเรือนไมล์บริเวณใต้หน้าปัดเข็มวัดรอบเครื่องและเข็มวัดความเร็วรถ แต่รถยนต์บางคันก็สามารถตั้งค่าให้เลขไมล์แสดงที่จออื่นหรือปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่นได้เช่นกัน หากมีจอแสดงผลหลายจอและฟังก์ชันในการปรับเปลี่ยน
รถไมล์น้อย ดีไหม?
โดยปกติเรามักจะคิดว่ารถยนต์มือสองที่เลขไมล์น้อยย่อมดีกว่าเลขไมล์เยอะ เพราะยิ่งเลขไมล์เยอะก็บ่งบอกว่าผ่านการใช้งานมาเยอะพอสมควร ซึ่งอาจจะมีอะไหล่บางชิ้นที่เริ่มสึกหรอและควรได้รับการเซอร์วิสหรือเปลี่ยนใหม่แล้ว
แต่ในความเป็นจริง! การดูเลขไมล์รถมือสองนั้นควรดูเรื่องสภาพการขับขี่ของรถยนต์ ปีผลิต และปีจดทะเบียนรถยนต์เพิ่มเติมด้วย ซึ่งปกติหากขับทุกวันอาจมีเลขไมล์เฉลี่ยปีละ 10,000-20,000 กิโลเมตร ส่วนเงื่อนไขการรับประกันรถโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 100,000 กิโลเมตร หรือ 3 ปี ซึ่งเลขไมล์เหล่านี้เป็นตัวช่วยประเมินได้ว่ารถคันนั้นใช้งานมาหนักมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับอายุของรถ
รถมือสองไมล์เยอะเป็นหลักแสน ดีหรือเปล่า ?
รถยนต์มือสองที่มีเลขไมล์เยอะไม่ได้หมายความว่าจะไม่ดีนะ ด้านระยะทางตามรอบไมล์อาจจะเยอะและถึงอายุการใช้งานของอะไหล่แล้วก็จริง แต่ในเรื่องของเครื่องยนต์ต้องบอกว่าเลขไมล์มากน้อยก็สำคัญ ยกตัวอย่าง
รถยนต์ที่วิ่งแต่ในเมือง แต่ไมล์น้อย VS รถยนต์ที่วิ่งต่างจังหวัดบ่อย ไมล์เยอะ ควรซื้อคันไหน?
รถยนต์ที่วิ่งแต่ในเมืองจะต้องเจอกับสภาพการจราจรที่ติดขัดบ่อยนั่นจึงทำให้เลขไมล์ค่อนข้างน้อย แต่ว่าในการใช้งาน การที่รถติดนั้นเราจำเป็นต้องมีการเหยียบเบรกอยู่ตลอดในช่วงรถติดหรือติดไฟแดง ทำให้เครื่องยนต์ เกียร์ เพลาขับ และระบบลูกสูบเบรกทำงานหนักกว่าขับทางไกล
นั่นก็เพราะว่าการออกตัวจำเป็นต้องใช้รอบเครื่องและกำลังส่งจากเกียร์ที่สูงมาก เพื่อทำให้รถมีกำลังในการออกตัวบ่อยๆ ทำให้มีโอกาสที่เครื่องยนต์ เกียร์ จานเบรค เพลาขับ ระบบลูกสูบภายในคาลิปเปอร์ และผ้าเบรกมีปัญหาหรือสึกหรอได้ง่ายกว่าทั้งที่มีเลขไมล์น้อย
ในทางกลับกัน รถยนต์ที่มีเลขไมล์เยอะ แต่ดูเล่มทะเบียนรถแล้วพบว่ายังเป็นรถปีไม่ลึก เช่น ปี 2018-2020 หากมีเลขไมล์ที่เยอะมากๆ เช่น 80,000 - 120,000 กิโลเมตร ก็ไม่ต้องตกใจ นั่นอาจจะเป็นเพราะว่ารถยนต์คันนี้มีการใช้งานในการเดินทางไกลบ่อยๆ เช่น ขับเดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัวที่ต่างจังหวัด เป็นต้น
หากเป็นกรณีนี้ตัวเครื่องยนต์ เกียร์ จานเบรค และ ผ้าเบรค ก็อาจจะเสื่อมสภาพหรือมีการสึกหรอที่น้อยกว่ารถยนต์ที่ขับในเมือง เพราะการขับทางไกลไม่ได้มีการเบรกบ่อยๆ หรือใช้รอบเครื่องและเกียร์ที่ทำให้มีแรงออกตัวสูงบ่อยๆ นั่นจึงทำให้เครื่องยนต์ เกียร์ เพลาขับ หรือส่วนอื่นๆ ในระบบเบรกนั้นสึกหรอน้อยกว่า
อีกวิธีหนึ่งในการตรวจสอบเลขไมล์ว่าแท้หรือไม่นั้น อาจลองตรวจสอบประวัติการเช็กระยะกับศูนย์บริการ เพื่อดูว่าเลขไมล์ปัจจุบันสอดคล้องกับอดีตที่ผ่านมาหรือไม่ หรือหากเจ้าของเดิมไม่ได้นำรถเข้าศูนย์มานานแล้ว ก็อาจลองตรวจสอบใบเสร็จรับเงินต่างๆ ที่อยู่ภายในรถ โดยเฉพาะใบเสร็จจากอู่ซ่อมบำรุง หรือร้านเปลี่ยนยาง ซึ่งมักจะระบุเลขไมล์ของรถเอาไว้เพื่อการตรวจสอบ
เลือกรถมือสองอย่าดูที่เลขไมล์เพียงอย่างเดียว
เนื่องจากเลขไมล์อาจถูกปรับแก้ได้ง่ายแม้จะเป็นไมล์ดิจิทัลก็ตาม จึงควรตรวจสอบประวัติรถอย่างละเอียดเสียก่อน ทั้งยังต้องขับทดลองรถเพื่อดูสมรรถนะของเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง และระบบไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงจะต้องไม่พิจารณาเลือกราคาถูกที่สุดเพียงอย่างเดียว เพราะอาจเจอเข้ากับรถที่มีปัญหาหมกเม็ดอยู่ได้
สรุปแล้วการเลือกซื้อรถมือสอง เลขไมล์เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ใช้ในการพิจารณา ทั้งยังควรพิจารณาส่วนประกอบอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น สภาพรถโดยรวม ประวัติการดูแลรักษา และงบประมาณที่มี เพื่อให้ได้รถมือสองที่คุ้มค่าที่สุดครับ