Chery ประกาศร่วมทุน KGEN เตรียมเปิดโรงงาน OMODA & JAECOO ในไทย
Chery ประกาศร่วมทุน KGEN เตรียมเปิดโรงงาน OMODA & JAECOO ในไทย

เชอรี อินเตอร์เนชั่นแนล (Chery International) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ที่เพิ่งจัดงานเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการ และเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นแรกในไทย คือ OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 

ล่าสุด เชอรี ประกาศจับมือ บริษัท คิงเจน จำกัด (มหาชน) (KGEN) ร่วมทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย รองรับการผลิตรถยนต์ทั้ง OMODA และ JAECOO 

มูลค่าการลงทุนอยู่ที่กว่า 5,000 ล้านบาท โดยเบื้องต้นเฟสแรกจะมีกำลังการผลิต 50,000 คัน/ปี ก่อนจะขยายเฟสที่ 2 ในปี 2571 เป็น 80,000 คัน/ปี โดยการผลิตของโรงงานแห่งใหม่จะรองรับทั้งการจำหน่ายในประเทศ และการส่งออกทั่วโลกเพื่อผลักดันไทยขึ้นแท่นฮับ EV ของภูมิภาค 

ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะคณะกรรมการนโยบายยานยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งชาติ หรือ บอร์ดอีวี กล่าวว่าการร่วมลงทุนครั้งนี้จะส่งผลให้คนไทยและประเทศไทยได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งจากการจ้างงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาศักยภาพบุคลากร ไปจนถึงการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 

“Chery เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศจีนที่เชื่อมั่นนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย และตัดสินใจเข้ามาลงทุนโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ขอยืนยันว่ารัฐบาลไทย และ อว. พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เชื่อมั่นว่าตลาดยานยนต์ของไทยมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

เฉิน ชุนชิง (Chen Chunqing) รองประธาน เชอรี่ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า Chery มีประสบการณ์ด้านยานยนต์ระดับโลก 27 ปี ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในกว่า 80 ประเทศ มีโรงงานต่างประเทศกว่า 10 แห่ง ผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการกว่า 1,500 แห่ง นอกจากนี้ยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาทุกภูมิภาคทั่วโลก และเป็นผู้ส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรายใหญ่ที่สุดของจีน 22 ปี ติดต่อกัน และยังเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก 

“ความเชื่อมั่นในนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย Chery จึงตัดสินใจเข้ามาลงทุนโรงงาน การจับมือกับ KGEN  ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย)”

ฉี เจี๋ย (Qi Jie) ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การจับมือกับ KGEN จะเน้นผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (xEV) ทั้งรถ อีวี และไฮบริด โดยเฟสแรกมีเป้าหมายผลิต JAECOO EV จำนวน 50,000 คัน ภายในปี 2568

เฟสต่อมามีเป้าหมายผลิตรถ OMODA EV จำนวน 80,000 คัน ภายในปี 2571 

โดยการผลิตจะรองรับการขายในประเทศ และส่งออกไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง 

ส่วนภาพรวมโอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ล่าสุด มีผู้จำหน่ายทั่วประเทศทั้ง 23 แห่ง และจะขยายเป็น 40 แห่งภายในปีนี้

พรทิพย์ ตรงกิ่งตอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิงเจน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมทุนครั้งนี้ KGEN ถือหุ้น 60% ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากการลงทุนในอดีตที่ส่วนใหญ่บริษัทต่างชาติจะลงทุนเองทั้ง 100% 

โรงงานแห่งนี้จะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในการส่งออก ที่สามารถรองรับการผลิตรถยนต์ทั้งพวงมาลัยขวาและพวงมาลัยซ้าย ซึ่ง โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ตั้งเป้าหมายยกกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถพวงมาลัยขวาในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ และขยายตลาดส่งออก ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการดึงเม็ดเงินกลับเข้าสู่ประเทศตามเป้าหมายของรัฐบาล

 

 

Cr. มูนช็อท ดิจิตอล

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง