ดีไซน์ด้านหน้าของตัวรถ ใช้ไฟหน้า LED เต็มระบบ มาพร้อมกับไฟ DRL ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ZEEKR ส่วนกระจังหน้า เป็นสีเดียวกับตัวรถ เหมือนกับเวอร์ชั่นในฮ่องกงทุกประการ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว รัดยางขนาด 255/50 R19 ความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 142 มม. และเมื่อเปรียบเทียบความสูงกับ iPhone 15 Pro จะเป็นดังภาพ ด้านท้ายของตัวรถ โดดเด่นด้วยไฟท้าย LED ยาวถึง 1.76 เมตร มาพร้อมกับโลโก้ ZEEKR แบบ 4 มิติ ส่วนฝาท้ายเป็นระบบไฟฟ้า
ช่องชาร์จแบตเตอรี่เป็นพอร์ท CCS2 มาตรฐานเดียวกับประเทศไทย ติดตั้งบริเวณด้านหลังซ้ายของตัวรถ รองรับกำลังไฟการชาร์จ AC 11 kW และ DC สูงสุด 360 kW มาพร้อมกับระบบ V2L จ่ายไฟออกได้สูงสุด 6 kW
ZEEKR 009 มาพร้อมกับระบบ AI ผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้แบบเต็มรูปแบบ สามารถสั่งการทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง, สั่งเปิด/ปิดหลังคา, เปิดเพลง, สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และอื่นๆ อีกอย่างมากมาย โดยสามารถสั่งทำงานพร้อมกันทั้งหมดได้ ตัวระบบก็สามารถทำงานทุกคำสั่งพร้อมกันได้ด้วยเช่นกัน
ช่วงล่าง เป็นแบบถุงลมไฟฟ้าเต็มระบบ สามารถปรับระดับความสูงได้มากสุด 172 มม. โดยความสูงมาตรฐานอยู่ที่ 142 มม.
ประตูสไลด์ทั้ง 2 ด้าน เป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมด
ขุมพลัง
Zeekr 009 โฉมปี 2024 ทั้ง 2 รุ่นย่อย มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และชุดแบตเตอรี่ลิเธียม Qilin 3.0 แบบ CTP (cell-to-pack) ของ CATL ที่มีความจุ 116 kWh และ 140 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าแต่ละตัวให้กำลัง 400 kW และแรงบิด 686 นิวตันเมตร และสามารถอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที ระยะเบรกจาก 100-0 กม./ชม. ใช้ระยะ 36.9 เมตร ระยะทางที่วิ่งได้ 702 กม. และ 822 กม. ตามมาตรฐาน CLTC รองรับการชาร์จ DC จาก 10-80% ใช้เวลาเพียง 28 นาที
ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเลย์เอาต์รูปตัว T แบบเดิม พร้อมหน้าจอสัมผัส infotainment ขนาดใหญ่ ขนาด 15.4 นิ้ว แผงหน้าจอ LCD แบบฝัง ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอความบันเทิง สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งสอดคล้องกับรุ่นก่อนหน้า ส่วนระบบปฏิบัติการ คือ Zeekr OS พร้อมกับผู้ช่วย AI อัจฉริยะ
ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับฟังก์ชันมาตรฐาน 4 รายการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเกรดการกำหนดค่า ได้แก่ กระจกมองหลังแบบดิจิทัล, พวงมาลัยปรับไฟฟ้า, การอัปเกรดที่นั่งผู้โดยสาร และกระจกกันเสียงแบบ 2 ชั้น สำหรับที่นั่งแถวที่ 3 พวงมาลัยรองรับการทำงานร่วมกับ Face ID และสามารถปรับตำแหน่งได้โดยอัตโนมัติตามการใช้งานของผู้ขับขี่
นอกจากนี้ ที่นั่งผู้โดยสารสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทาง และมาพร้อมเบาะนวด ยังมีระบบเสียงรอบทิศทาง Yamaha 20 ลำโพง ฟีเจอร์อื่น ๆ ได้แก่ การควบคุมระยะไกลผ่านโทรศัพท์มือถือ, การอัปเดตผ่าน OTA, การจดจำใบหน้า, การชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย, ไฟ Ambient Light และมีแผงหน้าจอ Smart Bar ขนาด 3.4 นิ้ว สำหรับควบคุม ระบบปรับอากาศ หน้าต่าง ม่านบังแดดไฟฟ้า บริเวณด้านในของประตูบานเลื่อนแถวที่สองอีกด้วย
ระบบความปลอดภัย
ในแง่ของความปลอดภัย ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงของรุ่นใหม่เรียกว่า Zeekr AD ทำงานร่วมกับกล้องความละเอียดสูง 8 ล้านพิกเซล จำนวน 7 ตัว, กล้องความละเอียดสูง 2 ล้านพิกเซล จำนวน 4 ตัว, เรดาร์อัลตราโซนิก จำนวน 12 ตัว และเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร จำนวน 1 ตัว ทั้งนี้ Zeekr AD ยังรองรับฟังก์ชันการทำงานร่วมกับ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control), ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ (Auto Lane Change), ระบบรักษาให้รถอยู่ในเลน (Lane Keeping Assist), การจดจำป้ายจราจร (Traffic Sign Recognition), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเดินหน้า (Front Cross Traffic Alert) และ ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitoring) เป็นต้น
Zeekr 009 รถตู้ MPV ไฟฟ้า 100% รุ่นปี 2024 วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 822 กม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.48 ล้านบาท
ที่มา : CarNewsChina
ขอบคุณภาพ : autohome