เปรียบเทียบ รถ PPV ยี่ห้อไหนเหมาะกับคุณ ประหยัดน้ำมัน นั่งสบายที่สุด 2024
เปรียบเทียบ รถ PPV ยี่ห้อไหนเหมาะกับคุณ ประหยัดน้ำมัน นั่งสบายที่สุด 2024

รวมรถ PPV น่าใช้ปี 2024 รุ่นไหนตอบโจทย์ และน่าใช้มากที่สุด!

1. ISUZU MU-X : รถ PPV ที่ประหยัดน้ำมันที่สุด


จุดเด่นของ ISUZU MU-X
รถ PPV รุ่นเดียวที่มีเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ตัวนี้จึงประหยัดน้ำมันที่สุด
รถ PPV ที่ตัวท็อปใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่สุด คือ 3.0 ลิตร
ระบบความปลอดภัยแน่น เยอะกว่าคู่แข่งบางราย
ช่วงล่างออกแบบมาอย่างดี รองรับการบรรจุผู้โดยสารแบบเต็มคัน นุ่มนวล นั่งสบาย
สาดโค้งแล้วไม่หลุด เพราะระบบควบคุมการทรงตัวทำงานดีมาก
ราคารุ่นท็อปถูกกว่าคู่แข่ง คือ 1,579,000 บาท ในขณะที่คู่แข่งบางรายเริ่มต้นที่ 1,8xx,xxx บาท
เป็นรถที่ซื้อง่าย ขายคล่อง
จุดด้อยของ ISUZU MU-X
รุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร จะจ่ายค่าต่อภาษีประจำปีแพงกว่ารุ่นอื่นนิดหน่อย


2. Ford Everest : รถ PPV ขับดีที่สุดในกลุ่ม


จุดเด่นของ Ford Everest
ช่วงล่างดีที่สุดในกลุ่ม มีความนุ่มนวล ในขณะที่คู่แข่งจะค่อนข้างกระด้าง
รถ PPV ที่เบาะนั่งแถว 3 นั่งสบายที่สุด
มีหลังคาพาโนรามิก ซันรูฟ บานใหญ่ ซึ่งคู่แข่งไม่มี
มุมมองในการขับขี่ดีเยี่ยม แทบไม่มีมุมอับสายตา
บันไดข้างรถทั้ง 2 ฝั่ง มีความแข็งแรงสูงมาก
เบาะนั่งนุ่มสบาย นั่งขับยาว ๆ 2 ชั่วโมงขึ้นไปไม่เมื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย
กินน้ำมันไม่ดุมาก ทดลองนั่ง 5 คน พร้อมสัมภาระอัดเต็ม และวิ่งประมาณ 100-130 km/hr อัตราบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 10 km/L เท่านั้นเอง
Ford Everest ตัวท็อปรุ่นใหม่ มีซีซีน้อยที่สุด มาพร้อมเกียร์ 10 สปีด ทำให้จึงวิ่งทางไกลดีที่สุดนั่นเอง ประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องเค้นรอบเครื่อง
ออปชันและสิ่งอำนวยความสะดวกมาแบบจัดเต็ม จนคิดในใจว่า “ของขนาดนี้แล้วรุ่นต่อไปจะใส่อะไรอีก”
จุดด้อยของ Ford Everest
ค่าบำรุงรักษาและราคาอะไหล่สูงกว่า PPV ค่ายญี่ปุ่น

3. Mitsubishi Pajero Sport : รถ PPV ที่คุ้มค่าที่สุด

จุดเด่นของ Mitsubishi Pajero Sport 
ขับดีมาก อัตราเร่งดีเยี่ยม แม้แรงม้าและแรงบิดจะน้อยกว่าค่ายอื่น
คอนโซลกลางกว้าง ห้องโดยสารใหญ่ มีพื้นที่เหลือ ๆ ไม่ต้องกลัวเข่าติดหรือศอกชนกัน
เกียร์ 8 สปีด เปลี่ยนเกียร์ได้ฉลาดสุด นุ่ม ขับเดินทางไกลไม่เหนื่อย
ด้านหลังรถมีกันชนขนาดใหญ่และแผงกันกระแทกด้านล่าง ซึ่งแข็งแกร่งและช่วยเพิ่มปลอดภัย
มีจอภาพพร้อมรีโมตคอนโทรล ขนาด 12.1 นิ้ว ติดตั้งบนเพดานรถ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และสมาร์ทโฟนผ่าน HDMI
แม้รถจะคันใหญ่ แต่ขับขี่ในเมืองค่อนข้างง่าย เพราะมีตัวช่วยในการขับขี่คอยช่วยเหลือ
ระบบความปลอดภัยทำงานได้ดี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเต็มเม็ดเต็มหน่วย คุ้มไม่ไหว!
มีกล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor) ซึ่งจับภาพแบบ 360 องศารอบตัวรถ และแสดงภาพสิ่งกีดขวางจากมุมสูง พร้อมเส้นกะระยะและเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ ทำให้ผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย
สามารถตรวจจับกล้องจับความเร็วบนถนนได้ เมื่อใกล้จะมีเสียงแจ้งเตือนที่หน้าจอ ทดลองแล้วใช้งานได้จริง
ขึ้นชื่อเรื่องดูแลรักษาง่าย ไม่ค่อยเจอปัญหาให้ซ่อม
ได้รับรางวัลจาก Car of the year Thailand ตำแหน่ง The Most Valueable PPV หรือรถ PPV ที่คุ้มค่าที่สุด!
จุดด้อยของ Mitsubishi Pajero Sport
พวงมาลัยมีน้ำหนักมากไป อาจจะรู้สึกเมื่อยหากขับขี่ในเมือง

4. Toyota Fortuner : รถ PPV ที่คนใช้มากที่สุด


จุดเด่นของ Toyota Fortuner
เป็นรถ PPV ที่คนใช้เยอะที่สุด ไม่ว่าจะมือหนึ่งหรือมือสอง
ตัวท็อป GR Sport แรงม้าและแรงบิดสูงที่สุดในกลุ่ม PPV (224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร)
ดีไซน์ภายนอกสวยงาม ดุดันขึ้น เหมาะกับสายสปอร์ต
เครื่องยนต์ให้อัตราการเร่งที่ทันใจ ขับสนุก
เครื่องยนต์ทนทาน รถใช้ได้นาน ปัญหาน้อย
ขึ้นชื่อเรื่องอึด ถึก ทน! ดูแลรักษาง่าย
ศูนย์บริการครอบคลุมทั่วไทย ไปไหนสบายใจ หายห่วง
จุดด้อยของ Toyota Fortuner
เป็นรถ PPV ที่รุ่นท็อปราคาสูงที่สุด แต่มีออปชันและระบบความปลอดภัยหลายอย่างที่คู่แข่งนำไปก่อน (แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ตัวท็อป)

5. Nissan Terra : รถ PPV ที่ตัวท็อปราคาถูกที่สุด

จุดเด่นของ Nissan Terra
รถ PPV ที่รุ่นท็อปราคาถูกที่สุด
โดดเด่นเรื่องความอึด ถึก ทน ปัญหาน้อย
ออปชันจัดหนัก จัดเต็ม! ครบเกินคุ้ม! การันตีด้วยรางวัล Car of the Year 2022
มีระบบเครื่องเสียง BOSE และหน้าจอ SMART TV ขนาด 11 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง เหมือนยกโรงภาพยนตร์มาไว้ในรถ
ขับขี่สบาย ออกตัวได้ดี เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ 
รถ PPV รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ Intelligent Rear View Mirror ซึ่งจะแสดงภาพที่มีความละเอียดสูง แม้มีผู้โดยสารตอนหลังหรือสัมภาระบังก็มองเห็นได้ชัดเจน
ไฟ Daytime สว่างมากในเวลากลางคืน ช่วยเพิ่มความปลอดภัย แสงไม่แยงตาเพื่อนร่วมทาง
มีช่องเก็บของด้านท้ายซ่อนอยู่ ทำให้เก็บของเป็นระเบียบมากขึ้น
เป็นรถ PPV ที่หยัดน้ำมัน รองรับดีเซลทุกชนิด ทั้ง B7, B10 และ B20
อัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ 12 km/L ถือว่าประหยัดสำหรับรถที่มีขนาดใหญ่และมีสำภาระเต็มคัน
มีเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน 360° Safety Shield
จุดด้อยของ Nissan Terra 
รุ่นที่เบาะสีขาวบำรุงรักษาค่อนข้างยาก เปื้อนง่ายและเห็นชัด ต้องระมัดระวังกว่าสีดำ
เบาะนั่งสูงไป และพวงมาลัยไม่สามารถปรับเข้า-ออกได้
พวงมาลัยหนักมาก ใช้งานในเมืองไม่ค่อยโอเคเท่าไร แต่ใช้งานได้ดีในความเร็วสูง

6. Chevrolet Trailblazer : อดีตรถ PPV ที่แรงบิดสูงที่สุด

จุดเด่นของ Chevrolet Trailblazer
ระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยจัดเต็ม มีมาให้เพียบพร้อม
เครื่องยนต์ ระบบเบรก และช่วงล่างดีไม่แพ้คู่แข่ง
ภายในหรูหรา กว้างขวาง มอบความอเนกประสงค์แบบเต็มเปี่ยม
แรงบิด 480 Nm. เทียบเท่าระดับรถสปอร์ตตัวแรง และยังมากกว่า PPV บางรุ่นในปัจจุบัน
มีดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ
ด้านหลังเป็น 5-Links คอยล์สปริง ยึดเกาะและดูดซับแรงได้เป็นอย่างดี
รูปลักษณ์ทันสมัยกว่าเพื่อนในยุคก่อน เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เหมาะกับสายลุยมาก
ราคาถูก รุ่นท็อปอยู่ที่ 1,489,000 บาทเท่านั้น
จุดด้อยของ Chevrolet Trailblazer
ช่วงออกตัวต้องค่อนข้างอืด แต่ถ้ารอบสูงเมื่อไร พละกำลังมาเต็ม!
พวกมาลัยหนัก
ไม่มี Chevrolet Trailblazer มือหนึ่งขายในไทยแล้ว

 

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง