OMODA C5 EV ถูกพัฒนาเป็นรถเอสยูวีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ติดตั้งมอเตอร์กำลังสูงสุด 201 แรงม้า (HP) หรือ 150 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 340 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 172 กม./ชม.
แบตเตอรี่แบบ Lithium Iron Phosphate ที่ระบุว่าสามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 505 กม. ต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง (NEDC) รองรับการชาร์จด่วนจาก 30-80% ในเวลา 28 นาที พร้อมด้วยวัสดุครอบแบตเตอรี่เพื่อป้องกันความเสียหายจากการกระแทก ได้รับมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68
รูปโฉมภายนอก มิติตัวถัง ยาว 4,440 มิลลิเมตร กว้าง 1,830 มิลลิเมตร สูง 1,588 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,630 มิลลิเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน กำลัง 165 กิโลวัตต์ 224 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุ 61 kWh ชาร์จเต็มวิ่งไกล 460 กิโลเมตร คู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกันคือ BYD Atto 3 / ORA Good Cat GT / MG ZS EV
ภายในห้องโดยสาร
ซึ่งตรงกับคอนเซปต์ “Light of Movement” มาพร้อมกับกล้อง 540 องศา ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 สี หน้าจอแสดงผลขนาด 24.6 นิ้วแบบทัชสกรีน เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมฟังก์ชั่นระบายอากาศ ลำโพง SONY 8 ตำแหน่ง เทคโนโลยีความปลอดภัย 3 ฟังก์ชั่นระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (DMS) ระบบปรับอากาศแบบ 2-zone พร้อมกรองฝุ่น PM2.5 ระบบชาร์จมือถือไร้สาย 50W และกล้องมองภาพ 540 องศา HD Panoramic
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ พร้อมแนะนำกับรถยนต์ “JAECOO 6” เอสยูวีออฟโรดพรีเมี่ยม พวงมาลัยขวาครั้งแรกในประเทศไทยด้วย
ก่อนหน้านี้โอโมดาได้ประกาศแผนงานเตรียมแนะนำรถยนต์ออกสู่ตลาดประเทศไทยถึง 4 รุ่น ได้แก่ JAECOO 6 EV, TIGGO 8 PRO Plug-in Hybrid และ JAECOO 7 Plug-in Hybrid และภายในไตรมาสที่ 4 จะมีโชว์รูมและศูนย์บริการไม่น้อย 35 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค
ส่วนราคาจำหน่าย OMODA C5 EV ที่อินโดนีเซียอยู่ที่ 488,800,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 1,130,000 บาท ส่วนรายละเอียดสเปกและราคาจำหน่ายเวอร์ชันไทยติดตามอีกครั้งได้หลังจากเปิดตัว