1. Chevrolet Captiva รุ่นปี 2012 - 2016
ราคามือสองโดยประมาณ 240,000 - 420,000 บาท
Chevrolet Captiva ถือเป็นรถอเนกประสงค์ยอดนิยมในอดีต ด้วยสมรรถนะช่วงล่างที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่ง มีให้เลือกทั้งเบนซิน 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 136 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ปัจจุบันราคามือสองลดลงมาจากป้ายแดงพอสมควร เนื่องจากเชฟโรเลตหายไปจากประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอู่นอกเป็นทางเลือกเยอะแยะเต็มไปหมด
2.Ford EcoSport รุ่นปี 2014 - 2018
ราคามือสองโดยประมาณ 270,000 - 390,000 บาท
สำหรับใครที่อยากได้เอสยูวีแต่ไม่ต้องการความเทอะทะ ขอแนะนำ Ford EcoSport ที่มีรูปทรงกะทัดรัด เหมาะสำหรับเน้นการใช้งานในเมือง แต่จะขับไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ไม่เคอะเขิน ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 110 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 6 สปีด แบบเดียวกับ Fiesta เปี๊ยบ แม้ว่าในระยะแรกเกียร์ลูกนี้จะมีเสียงบ่นรวมถึงปัญหาจากผู้ใช้งานพอสมควร แต่ปัจจุบันไม่มีอะไรที่ช่างไทยซ่อมไม่ได้
3.Nissan Juke รุ่นปี 2014 - 2019
ราคามือสองโดยประมาณ 290,000 - 380,000 บาท
Nissan Juke เป็นครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่มีความโดดเด่นในเรื่องรูปทรงที่ดูแปลกตา ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 116 แรงม้า แม้ว่าตัวรถจะไม่ค่อยจุกจิกเท่าใดตามประสานิสสัน แต่ก็มีข้อด้อยในเรื่องพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังที่คับแคบ ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นรถครอบครัวเท่าใดนัก แต่หากขับเพียง 1-2 คนอยู่เป็นประจำแล้วล่ะก็ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน
4.Suzuki SX4 รุ่นปี 2010 - 2012
ราคามือสองโดยประมาณ 180,000 - 250,000 บาท
หลายคนอาจแทบไม่เคยรู้เลยว่าซูซูกิเคยนำเข้ารถรุ่นนี้มาจำหน่ายในบ้านเรา แต่ด้วยรูปทรงขนาดกะทัดรัด แถมตกแต่งให้ดูทะมัดทะแมงตามสไตล์ครอสโอเวอร์ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 112 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ออโต้ 4 สปีด แถมปัจจุบันยังสามารถหาได้ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 แสนบาท
5.Nissan X-Trail รุ่นปี 2009 - 2012
ราคามือสองโดยประมาณ 230,000 - 380,000 บาท
แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในแบรนด์เจ้าตลาด แต่ X-Trail เจเนอเรชันที่ 2 กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนัก เนื่องจากรูปทรงที่ไม่อาจเทียบกับคู่แข่งไหว รวมถึงอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้มาค่อนข้างน้อย แต่เมื่อกลายเป็นรถมือสองก็ถือว่าน่าคบหาพอสมควร ด้วยราคาป้วนเปี้ยนหลัก 2 แสนบาทเท่านั้น