AION V เอสยูวีไฟฟ้าพวงมาลัยซ้าย วิ่ง 500 กม. ต่อการชาร์จ ถูกนำมาโชว์ตัวครั้งแรกในประเทศไทยระหว่างการเปิดโรงงานผลิตแห่งแรกของ GAC AION ในประเทศไทยวันนี้ (17 ก.ค.)

โรงงานแห่งนี้ จะประกอบ GAC AION Y Plus พวงมาลัยขวา และใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งตัวโรงงานใช้เงินลงทุนกว่า 2,300 ล้านบาท มีกำลังการผลิต 50,000 คันต่อปี

ตัวโรงงานมีพื้นที่ 85,000 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

ตอนนี้ GAC AION มีโรงงาน 2 แห่งในจีน กำลังการผลิตรวม 500,000 คัน ต่อปี และเป็นแบรนด์ค่ายรถที่ได้รับความนิยมต้นๆ ค่ายหนึ่งในจีน และมีแผนสร้างฐานการผลิตและการจำหน่ายใน 7 พื้นที่ทั่วโลก

เจิง ชิ่งหง ประธานบริษัท GAC AION กล่าวว่า จีนไทยใกล้กันมีมิตรภาพ ซึ่งไทยเป็นพันธมิตรสำคัญของจีน การเปิดความร่วมมือในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้านั้น ส่วนหนึ่งเพราะอัตราเติบโตของยอดขายรถไฟฟ้าไทยได้รับความสนใจทั่วโลก จีนเชื่อมั่นการลงทุนและความร่วมมือเชิงลึกกับไทยที่จะบรรลุเป้าหมายร่วมกัน

โดย GAC AION เป็นบริษัทที่มีการวิจัยและพัฒนายานพาหนะอย่างครบวงจร ในปี 2566 ที่ผ่านมามียอดการผลิตและจำหน่ายทั่วโลกทะลุ 2.5 ล้านคัน

การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ GAC AION ในประเทศไทย ถือเป็นการเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันของแบรนด์ทั้งในประเทศไทยและในระดับสากล ด้วยการเป็นฐานการผลิตรถยนต์แห่งแรกในต่างประเทศของ GAC AION ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานผลิตสองแห่งในประเทศจีน มีกำลังการผลิต 500,000 คันต่อปี และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 120% มียอดการผลิตและจำหน่ายอยู่ในสามอันดับแรกของอุตสาหกรรม

เมื่อเปิดโรงงานแห่งนี้ขึ้นอีกหนึ่งแห่ง จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับบริษัทฯ ในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และยังมีแผนสร้างฐานการผลิตและการจำหน่ายใน 7 พื้นที่ทั่วโลก

“โรงงานแห่งนี้ มุ่งเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งเพื่อจำหน่ายในประเทศและการส่งออกไปยังประเทศที่มีการใช้รถพวงมาลัยขวาทั่วโลก” นายเจิง ชิ่งหง กล่าวสรุป

ทั้งนี้ GAC AION  เคยประกาศว่า โรงงานแห่งนี้ใช้เงินลงทุน 1,300 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 6,400 ล้านบาท วางกำลังผลิตไว้ 100,000 คันต่อปี โดยจะประกอบรถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นแรกคือ AION Y Plus

ปัจจุบัน AION Y Plus รุ่น 410 Premium ราคา 859,900 บาท และรุ่น 490 Premium ราคา 995,900 บาท