ก่อนหน้านี้ มีข่าวลืออกมา Mitsubishi จะเลิกผลิตรถยนต์ 2 รุ่นอย่าง Mitsubishi Attrage และ Mitsubishi Mirage โดยได้มีการะบุข้อความว่า มิตซูบิชิ เตรียมหยุดสายการผลิตรุ่นแอททาจ และมิราจ หลังยอดขายรถน้ำมันตก จะใช้วิธีปรับลดพนักงานไปทำตำแหน่งอื่น ยันไม่มีการไล่ออก
ล่าสุด วันที่ 18 มิถุนายน 2567 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ออกแถลงการณ์สำหรับสื่อมวลชน ยืนยันว่า มิตซูบิชิเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทย และถือเป็นศูนย์กลางด้านยุทธศาสตร์การเติบโตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยกำลังการผลิตรถยนต์มากกว่า 400,000 คันต่อปี ทำให้โรงงานผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ถือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ ที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการส่งออกรถยนต์มากกว่าร้อยละ 80 ของปริมาณการผลิตไปยัง 120 ประเทศทั่วโลก
โดยล่าสุดแผนการผลิตรถมิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิ แอททราจ ของบริษัทยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการส่งออกมากกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณการผลิต พร้อมตอบสนองความต้องการรถอีโคคาร์ หรือรถยนต์ประหยัดพลังงาน ในตลาดประเทศไทยที่ยังคงได้รับความนิยม เพราะฉะนั้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงยังมิได้มีแผนที่จะหยุดการผลิตมิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิ แอททราจ อย่างแน่นอน
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยการลงทุนสำคัญ ๆ อาทิ การลงทุนในสายการผลิตใหม่สำหรับออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ประกอบด้วยหุ่นยนต์อัจฉริยะมากกว่า 250 ตัว และการผลิตเครื่องยนต์ใหม่ “ไฮเปอร์พาวเวอร์” ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรถออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ในปี 2566 และการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ที่แหลมฉบัง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในปี 2565 นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนการลงทุน ด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาสายการผลิตที่โรงงานประกอบรถยนต์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า xEV โดยเริ่มจาก เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และเอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ไปพร้อมกับรถยนต์อีโคคาร์ที่ผลิตอยู่เดิม
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์ที่พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเติมเต็มความสนุกเร้าใจในการการขับขี่ เพื่อปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นจากเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ภายใต้ดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) ด้วยปณิธานที่จะสร้างความเติบโตและพัฒนาไปพร้อมกับสังคมไทยและลูกค้าคนพิเศษ โดยตลอดระยะเวลากว่า 63 ปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศไทย ผ่าน 7 แกนหลัก ได้แก่ การลงทุน การส่งออก สิ่งแวดล้อม การถ่ายทอดเทคโนโลยี การช่วยเหลือสังคม การจ้างงาน และการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์