นับตั้งแต่การเข้ามาของยานยนต์ไฟฟ้าจากจีน ก็ทำให้การเปิดสงครามราคาของรถค่ายต่างๆ นั้นเกิดขึ้นอย่างมากมาย นับได้ว่าเป็นผลดีสำหรับผู้บริโภค ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ซึ่งทำให้ค่ายรถญี่ปุ่นต่างทนไม่ไหว ต้องปรับลดราคาลงมาบ้าง 

แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากกว่าใคร คงต้องยกให้ค่ายรถยุโรปอย่าง Audi (อาวดี้) ที่ตั้งใจปรับลดราคาของ Audi RS e-Tron GT quattro (อาวดี้ RS) ลงมาอย่างโหดถึง 2.2 ล้านบาท! จากเดิมราคา 10,190,000 บาท เหลือเพียง 7,990,000 บาท!

รถยนต์ในตระกูล RS ตอกย้ำ DNA แห่ง Racing Sport ซึ่งเป็นรถยนต์สมรรถนะซูเปอร์คาร์ ที่มีความลงตัวกับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ Audi ในทุกมิติ 

โดย Audi e-tron GT quattro ตอกย้ำความเป็นผู้นำในเซกเมนต์ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมพลังงานไฟฟ้ากับสุดยอดขุมพลังไฟฟ้า 100% สมบูรณ์แบบทั้งดีไซน์ สมรรถนะ มาพร้อมกับระบบ Electric quattro ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ การทรงตัว และออกตัว และเร่งแซง ติดตั้งไฟหน้า Matrix LED with Laser light ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเอฟเฟกต์ Light Staging เมื่อปลดล็อครถ

มีหลังคาพาโนรามิค ล้อขนาด 20 นิ้ว ดิสก์เบรก 4 ล้อพร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีดำ ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านหน้ารถเมื่ออยู่ทางแยก ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง

ภายในตกแต่งแบบสปอร์ต ด้วยพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Optimized Progressive แบบมัลติฟังก์ชั่น สปอร์ตท้ายตัดหุ้มหนัง หน้าจอ Virtual Cockpit Plus ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลมาตรวัดความเร็วและรอบเครื่อง พร้อมติดตั้งระบบ Cruise Control

ระบบ MMI Navigation Plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว ติดตั้งพร้อม ระบบ Audi Smartphone Interface และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมช่อง USB-C สำหรับห้องโดยสารด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และ USB ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง

จัดเต็มด้วยระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen แบบ 3 มิติ พร้อมไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร 30 สี เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน ความจุพื้นที่เก็บสัมภาระหน้า 85 ลิตร ด้านหลัง 405 ลิตร

แน่นอนว่ารหัส RS บ่งบอกถึงความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้น ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ของ e-motors ให้กำลังสูงถึง 646 แรงม้า ใน Boost Mode แรงบิดสูงสุด 830 นิวตัน-เมตร 

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.3 วินาที ใน Boost Mode ทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม และขับได้ไกลถึง 504 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)