หากใครยังจำได้เมื่อช่วงหลายปีก่อนหน้านั้น BYD (บีวายดี) ที่ทางบริษัท Rizen Energy (ไรเซน เอนเนอร์จี) และ บริษัท สยาม แอดวานซ์ เทคโนโลยี รีเลชั่นชิป จำกัด ในอดีตได้สิทธิ์เป็นผู้ทำตลาดรถยนต์ BYD ในรูปแบบ Fleet Operation หรือการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) เพื่อการพาณิชย์

ได้นำเข้ารถยนต์ BYD e6 (บีวายดี อี6) รวมไปถึงรถตู้ไฟฟ้าอย่าง BYD T3 (บีวายดี ที3) เข้ามาทำตลาดแบบการซื้อ-ขาย เฉพาะหน่วยงานหรือองค์กรใหญ่ๆ

อีกทั้งได้ส่งมอบรถไฟฟ้า BYD e6 เวอร์ชั่นรถ Taxi ให้กับ EV Society (อีวี โซไซตี้) ผู้บริหารกิจการแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นจำนวน 101 คัน ซึ่งก็ได้นำไปใช้จัดทำรถแท็กซี่ VIP นั่นเอง เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นกัน

แต่ต่อมาในบ้านเราธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลง จากความนิยมในหมู่ผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทาง BYD ประเทศจีนจึงแต่งตั้ง Rêver Automotive (เรเว่ ออโตโมทีฟ) ให้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2565

ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในตลาดรถไฟฟ้าส่วนบุคคลอย่างมากมาย กับ BYD Atto 3 (บีวายดี แอทโต้ 3) จึงขยายธุรกิจไปยังรถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ ตอกย้ำเป้าหมายขององค์กรในการขับเคลื่อนพลังงานใหม่ (New Dream Energy) ของไทย พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเดิมเป็น บริษัท เรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ จำกัด

สำหรับ BYD e6 ใหม่ จัดเป็นรถในรูปแบบ MPV ขนาด 5 ที่นั่ง ที่มาพร้อมรูปทรงทันสมัย กระจังหน้าแบบปิดทึบ พร้อมโลโก้ BYD พ่วงด้วยชุดไฟหน้าแบบโปรเจคเจอร์ และมีไฟ DRL แบบ LED รวมอยู่ในโคมเดียวกัน คู่กับล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/55 R17

มิติตัวรถยาว 4,690 มม. กว้าง 1,810 มม. สูง 1,670 มม. และระยะฐานล้อ 2,800 มม.

สำหรับห้องโดยสารภายในของ BYD e6 แม้ว่าจะออกแบบมาให้ใช้เชิงพาณิชย์เป็นหลัก แต่ก็ยังมอบความสะดวกสบายมาให้พอสมควร ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้มีระบบไฮเทคแบบใน BYD รุ่นอื่นๆ ก็ตาม มาพร้อมพวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน 
จับถนัดมือ และเบาะหนัง 

กับเรือนไมล์แบบเข็มผสมหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว บอกข้อมูลการขับขี่ที่จำเป็นครบครัน พร้อมกับระบบเกียร์แบบปุ่มหมุน

อีกทั้งยังมีหน้าจอ Infotainment แบบปรับหมุนได้ขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth มีลำโพง 4 ตำแหน่ง ติดตั้งให้ พร้อมพื้นที่บรรจุสัมภาระกว่า 450 กิโลกรัม และที่สำคัญ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพียงไม่กี่รุ่น ที่มียางอะไหล่ติดมาให้ด้วย!

ระบบความปลอดภัยต่างๆ ก็มีมาให้แบบครบครัน อาทิ กุญแจ Smart Key, ระบบป้องกันการโจรกรรม, กล้องมองหลัง, เซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด, เสียงสังเคราะห์ขณะใช้ความเร็วต่ำ, ระบบเบรก ABS + EBD + BA + ESP, ระบบ Traction Control, ระบบ VDC, ระบบช่วยเหลือการขึ้น-ลงจากทางลาดชัน และระบบ BOS เป็นต้น

BYD e6 2023 ใหม่ มีเฉพาะรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับหน้า ให้กำลังสูงสุด 93.8 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน Blade ที่ประกอบไปด้วยเซลล์ LFP ขนาด 70 kWh ให้ระยะทางขับขี่ราว 520 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTC) ทำความเร็วได้สูงสุด 130 กม./ชม.

ระยะเวลาชาร์จ AC อยู่ที่ 12.5 ชั่วโมง ส่วนระยะเวลาชาร์จ DC อยู่ที่ 1.5 ชั่วโมง

รถยนต์ไฟฟ้า BYD E6 เปิดจองแล้วที่โชว์รูม BYD ทั่วประเทศ ในราคา 1,135,900 บาท (หลังหักส่วนลดมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ) โดยสามารถจองได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนายน 2566 

และรถยนต์จะส่งมอบภายในเดือน มิถุนายน 2566 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแพคเกจ RÊVER Care รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท ได้แก่

- ฟรี! ประกันชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี*
- ฟรี! บริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ 3 ปี หรือ 100,000 กม.*
- ฟรี! โฮมชาร์จเจอร์พร้อมติดตั้ง(ตามเงื่อนไขที่กำหนด)*
- ฟรี! สายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger
- ฟรี! ค่าจดทะเบียน*
- ฟรี! พรม ผ้ายาง กรอบป้ายทะเบียน ฟิล์มหน้าจอ
- พิเศษ! ดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน
- พิเศษ! รับประกันตัวรถ (Warranty) 6 ปี หรือ 150,000 กม.
- พิเศษ! รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กม.

*ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทฯ