9 วิธีขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ
9 วิธีขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ

9 วิธีขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ

 

 

1.สวมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมและดีที่สุด

อย่างแรกที่ควรมีและควรทำคือ การมองหาอุปกรณ์ป้องกันการกระแทกในระหว่างการขี่มอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ “หมวกกันน็อค” ต้องใส่ทุกครั้งเพื่อเป็นการป้องกัน เพราะเราไม่รู้เลยว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ การใส่อุปกรณ์ป้องกันจะช่วยผ่อนหนักผ่อนเบาจากอุบัติเหตุลงได้

 

2.ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

การขับขี่ปลอดภัยที่ดีที่สุดคือ การขับรถมอเตอร์ไซค์ตามกฎจราจร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของป้ายสัญญาณ รวมไปถึงเส้นทางเดินรถ และจุดจอดรถต่าง ๆ นับได้ว่าเป็นข้อมูลพื้นฐานที่นักขับรถทุกคนต้องรู้ เพียงแค่ทุกคนทำตามกฎจราจร ความปลอดภัยก็จะอยู่รอบข้างทั้งตัวผู้ขับขี่เองและผู้ใช้ถนนคนอื่นด้วย ดังนั้นการอบรมเรียนรู้การต่อใบอนุญาตขับขี่จึงเป็นเหมือนการทบทวนข้อบังคับและหลักปฏิบัติในการขับรถจักรยานยนต์ในแต่ละรอบ

 

3.ไม่ปรับแต่งรถจนลดความปลอดภัย

สิ่งที่เป็นปัญหาและเป็นตัวการที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์คือ การดัดแปลงสภาพรถให้ผิดแผกไปจากปกติ เช่น การแต่งรถให้โหลดเตี้ยลง รวมไปถึงการติดตั้งหรือถอดอุปกรณ์มาตรฐานติดรถออกไป เช่นการถอดกระจกมองหลังหรือการดัดแปลงใช้กระจกมองหลังที่มีขนาดเล็กลง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการดัดแปลงรถที่อาจทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นจากรถจักรยานยนต์เสียไป กลายเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

4.ขับขี่ในเส้นทางที่ถูกต้อง

อุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดกับรถจักรยานยนต์ คือการหย่อนวินัยในการขับขี่เพราะคิดว่าไม่เป็นไร โดยเฉพาะการขี่รถย้อนศรที่สร้างความเสียหายให้กับตัวเองและผู้อื่นอยู่บ่อย ๆ นอกจากนั้นการขับขี่รถฉวัดเฉวียนในพื้นที่คับขัน หรือพื้นที่จราจรติดขัด เป็นเรื่องที่เสียงอันตรายมาก ๆ เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นจำกัด อาจทำให้ถูกรถคันอื่นพุ่งมาชนได้ รวมไปถึงการไม่ให้ความร่วมมือ เช่น การเปลี่ยนเลนกะทันหัน การจอดรถในพื้นที่มีทางม้าลาย สิ่งเหล่านี้อาจสร้างผลกระทบให้กับผู้อื่นจนเป็นที่มาของอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ได้ 

5.ใช้ความเร็วที่เหมาะสม

และเรื่องสำคัญที่นักขับมอเตอร์ไซค์ทุกคนควรเรียนรู้ คือ การใช้ความเร็วที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการขับรถในถนนปกติทางตรง ทางโค้ง รวมทั้งการขับขี่ในเมืองใหญ่และการเดินทางไกล ทั้งหมดนี้มีการกำหนดความเร็วเอาไว้แล้ว โดยเฉพาะรถบิ๊กไบค์ที่สามารถเร่งความเร็วได้มากยิ่งต้องระมัดระวัง การรักษาความเร็วที่เหมาะสมในการเดินทาง นอกจากจะเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับตัวเองแล้วยังง่ายต่อการควบคุมรถในขณะที่เกิดเหตุไม่คาดฝันได้อีกด้วย และอีกหนึ่งพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังสำหรับการใช้ความเร็วในการเดินทาง คือ พื้นที่ทางโค้งที่ใครอาจขี่รถมาด้วยความเร็วสูงและเข้าโค้งแบบแนบชิดติดถนน ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างมาก หากไม่สามารถควบคุมรถได้ หมายถึงอุบัติเหตุร้ายแรงตามมาอย่างแน่นอน

6.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนและขณะขับขี่

และอีกหนึ่งข้อบังคับสำคัญสำหรับการขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ปลอดภัย คือ การเมาไม่ขับ อุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มักเกิดจากการดื่มสุรา เพราะการดื่มสุราเข้าไป ความสามารถในการขับขี่รวมถึงความสามารถในการตัดสินใจเฉพาะหน้าจะลดลงไปมาก โดยเฉพาะรถบิ๊กไบค์ที่ขับขี่ด้วยความเร็วด้วยแล้วอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ สิ่งที่ดีที่สุดคือหากดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่ควรขับขี่รถจักรยานยนต์โดยเด็ดขาด

7.มีประกันรถมอเตอร์ไซค์ติดไว้

ถึงแม้ว่าเราจะป้องกันอย่างดี แต่อุบัติเหตุหลายครั้งก็อาจมาจากความประมาทของผู้อื่น การมีประกันภัยสำหรับรถจักรยานยนต์นับเป็นทางเลือกที่สำคัญยิ่งที่จะช่วยดูแลผู้ขับขี่และรถของคุณ เป็นการดูแลที่สร้างความอุ่นใจและปลอดภัยให้คุณได้อยู่เสมอ ควรมองหากรมธรรม์สำหรับประกันรถมอเตอร์ไซค์หรือประกันบิ๊กไบค์เอาไว้ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วคุณจะสามารถรับมือได้เป็นอย่างดี

8.ห้ามดัดแปลงสภาพรถ

ล้อและยาง กระจกมองข้าง ท่อไอเสีย ควรเป็นไปตามมาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต ไม่ควรดัดแปลง หรือถอดชิ้นส่วนใดออก เนื่องจากอุปกรณ์ส่วนควบของรถทุกชิ้นที่ติดตั้งมาจากโรงงานผู้ผลิตผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งาน และช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย


9.ฝนตกหนัก ลดความเร็ว

เลี่ยงการขับขี่ เพราะทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลง การควบคุมรถยากมากขึ้น ควรแวะพัก หยุดขับทันทีเพื่อความปลอดภัย

 

 

 

 

 

Share:
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง